ไม่พบผลการค้นหา
’ประยุทธ์’ มอบรางวัล "บทเพลงเพื่อชาติและราชบัลลังก์" เสียงสะอื้นเห็นคนหนุ่มสาวรักชาติราชบัลลังก์-เผยเป็นวันสำคัญที่ได้ฟังเพลงเพื่อชาติ เชื่อประเทศไทยไปต่อได้แน่นอน ย้ำวันนี้โลกขัดแย้งสูงคนไทยต้องรักกันให้มาก

วันที่ 17 ส.ค. 2565 ที่ห้างสยามพารากอน เขตปทุมวัน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม กล่าวในงานเป็นประธานการมอบรางวัลการประกวด “บทเพลงเพื่อชาติและราชบัลลังก์” ที่จัดโดยกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) ว่า วันนี้ทุกคนที่อยู่ในห้องนี้ คือคนที่มีหัวใจดวงเดียวกัน ซึ่งแสดงถึงความผูกพันผ่านเสียงเพลง ซึ่งวันนี้ไม่ต้องกล่าวว่าตนยินดีมากเพียงใดเห็นใบหน้าตนก็รู้ว่ามีความสุข ซึ่งตนยินดีที่มามอบรางวัลนี้ เพราะดนตรีเป็นสิ่งที่สร้างความบันเทิงช่วยจรรโลงจิตใจทำให้เกิดความรักความสามัคคีของคนในชาติและเป็นสื่อกลางในการสร้างความเข้าใจซึ่งกันและกัน เป็นภาษาเดียวที่เข้าใจกันได้ไม่ว่าชาติอะไรโดยไม่ต้องมีคำพูดใดๆ

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวอีกว่า ชื่นชมความสำเร็จการจัดงานนี้ที่เห็นเยาวชน ประชาชนรักในสถาบันชาติ ศาสนา มีความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ ซึ่งเป็นสถาบันที่ทำให้เราอยู่มาถึงทุกวันนี้ได้นี่คือสถาบันหลักของชาติ 

พล.อ.ประยุทธ์ ระบุว่า ตนมาห้องจัดงานนี้หลายครั้ง วันนี้คนเยอะที่สุด ซึ่งทุกคนมาร่วมฟังเพลงอันไพเราะของการแสดงเยาวชน ซึ่งแสดงให้เห็นว่าประเทศไทยเรายังมีอนาคตอีกไกล

“เรามีวันนี้ มีลุงแก่ๆยืนอยู่ตรงนี้และก็มีหนุ่มสาว เด็กๆอยู่ข้างหลัง” นายกรัฐมนตรี ระบุและนิ่งเงียบก่อนกล่าวต่อว่า “เราอยู่ได้ครับ”

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวอีกว่า ขอบคุณที่แสดงให้เห็นถึงความรักชาติโดยการเรียงร้องถ้อยคำเป็นบทกวีด้วยดนตรีผ่านการขับร้องเพลง ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความรักที่มีต่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์อย่างตั้งมั่น ทุกอย่างอยู่ที่หัวใจ ปาก สมอง เราจะรักใครชอบใครอยู่ที่สามส่วนที่สำคัญ รักก็คือรัก รักด้วยหัวใจ รักด้วยสมอง รักด้วยปัญญานี่คือสิ่งที่ทำให้โลกน่าอยู่สามัคคีวันนี้อันตรายจากความขัดแย้งที่เกิดขึ้น เราจะต้องรักกันให้มากที่สุด เรามีคน 66 ล้านคนต้องรักกัน ถ้าคน 60 กว่าล้านรักกันประเทศไทยไปได้แน่ๆ 

พล.อ.ประยุทธ์ ยังขอฟังเสียงปรบมือจากคนในงาน ก่อนระบุว่า คนอีกหลายสิบล้านก็เห็นเหมือนทุกคน พร้อมฝากประเทศไทยในมือของท่าน ตนจะทำให้ดีที่สุด

วันนี้ได้มาฟังเสียงดนตรี ซึ่งถือเป็นวันสำคัญของตน การที่เป็นนายกฯ เป็น รมว.กลาโหม เป็น ผอ.กอ.รมน. ดูแล้วตำแหน่งใหญ่โตมาก แต่ตำแหน่งยิ่งเยอะการรับผิดชอบต้องมาก โดยเฉพาะต้องดูแลคนให้ ซึ่งตนจะทำหน้าที่ให้ดีที่สุด

พร้อมย้ำว่าตำแหน่ง ผอ.กอ.รมน.ใครเป็นนายกฯ ก็ต้องมาเป็นไม่ใช่ตนเป็นทหารแบะมาเป็น ทุกรัฐบาล กอ.รมน.อยู่ภายใต้รัฐมนตรี ซึ่งเป็นหน่วยงานผสมในการแก้ปัญหาก็ขอให้เข้าใจประเด็นนี้ด้วย

ทั้งนี้ นายกฯ กล่าวทิ้งท้ายด้วยว่า "เราต้องฟันฝ่าอุปสรรคไปให้ได้ก้าวไปข้างหน้าด้วยกัน"

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มี 2-3 ช่วงที่นายกฯ หยุดพูดและมีการกล่าวด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือ