ไม่พบผลการค้นหา
ญี่ปุ่นเผชิญกับการแพร่ระบาดที่มีแนวโน้มเหนือการควบคุม ขณะตัวเลขผู้ติดเชื้อทั่วโลกเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ด้านเกาหลีใต้สถานการณ์ผ่อนคลายขึ้นมาก แต่รัฐบาลเตือนประชาชนยังไม่ถึงเวลากลับไปใช้ชีวิตแบบเดิม

จำนวนผู้ติดเชื้อโคโรนาไวรัสสายพันธุ์ใหม่ 2019 หรือ โควิด-19 ในญี่ปุ่นตามตัวเลขของทางการ ณ วันเสาร์ (18 เม.ย.) ที่ผ่านมา เกิน 10,000 ราย ทั้งๆ ที่เมื่อต้นเดือนมี.ค.ที่ผ่านมาตัวเลขผู้ป่วยยังอยู่ที่ 243 รายเท่านั้น

ตามข้อมูลจากมหาวิทยาลัยจอนส์ฮอปกินส์ ชี้ว่า ส่วนหนึ่งที่จำนวนผู้ป่วยเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดดมาจากการตรวจพบผู้ติดเชื้อที่สนามบินระหว่างการกักตัวและเป็นบุคลากรทางการแพทย์ที่ติดเชื้อเพิ่มขึ้น 

WT_ชินโซ อาเบะ.jpg
  • 'ชินโซ อาเบะ' นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น

ด้วยเหตุนี้นายชินโซ อาเบะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นจึงต้องเลื่อนแนวทางการกลับมาเปิดเศรษฐกิจซึ่งเป็นความหวังออกไป พร้อมทั้งสั่งเพิ่มการบังคับใช้มาตรการฉุกเฉินให้ครอบคลุมทั่วประเทศจากเดิมที่บังคับใช้แค่ใน 7 จังหวัดเท่านั้น

แม้นายอาเบะจะสัญญาเรื่องการจัดเตรียมอุปกรณ์ทางการแพทย์จำเป็นให้กับบุคลากรทางสาธารณสุขอย่างเต็มที่ แต่ผู้เชี่ยวชาญยังออกมาเตือนว่า หากรัฐบาลไม่สามารถควบคุมการแพร่ระบาดได้ผ่านมาตรการบังคับใช้อย่างการเว้นระยะห่างทางสังคม ญี่ปุ่นอาจต้องเผชิญหน้ากับตัวเลขผู้เสียชีวิตที่เกิดจากโควิด-19 ราวๆ 400,000 คน ขณะที่ความต้องการใช้เครื่องช่วยหายใจจะมีประมาณ 850,000 ราย 

ดร.ฮิโรชิ นิชิอูระ ศาสตราจารย์จากมหาวิทยาลัยฮอกไกโด ชี้ว่า "หากเราต้องเผชิญหน้ากับการแพร่ระบาดโดยไม่มีเครื่องป้องกัน จำนวนผู้ป่วยหนักจะมากกว่าเครื่องช่วยหายใจที่เรามี"


"ชาวญี่ปุ่นทุกคนต้องเปลี่ยนพฤติกรรมเพื่อช่วยกันหยุดการแพร่ระบาดให้ได้เร็วที่สุด" ดร.นิชิอูระ กล่าว


ผู้ติดเชื้อทั่วโลกเกิน 2.3 ล้านรายแล้ว

สถานการณ์ผู้ติดเชื้อทั่วโลก ตามตัวเลขของมหาวิทยาลัยจอนส์ฮอปกินส์ ณ เวลา 8.38 น. วันที่ 19 เม.ย.อยู่ที่มากกว่า 2,300,000 ราย โดยมีสหรัฐฯ มีจำนวนผู้ติดเชื้อสะสมมากที่สุดกว่า 734,00 ราย ตามมาด้วยสเปนที่จำนวน 194,000 ราย และอิตาลีอยู่ในอันดับที่ 3 ที่ 175,000 ราย 

สำหรับสหรัฐฯ นักวิจัย 3 ราย จากมหาวิทยาลัยฮาร์เวิร์ด ชี้ว่า หากประเทศต้องการกลับมาเปิดเศรษฐกิจให้ได้เร็วที่สุด รัฐบาลจำเป็นต้องเพิ่มจำนวนการตรวจหาผู้ติดเชื้อให้ได้อย่างน้อยที่สุดคือ 500,000 ราย/วัน จากตัวเลขการตรวจประมาณ 150,000 ราย/วัน ในปัจจุบัน ซึ่งมีสัดส่วนผู้ติดเชื้อราวๆ ร้อยละ 20 

นักวิจัยย้ำว่า หากต้องการกลับมาเปิดกิจกรรมทางเศรษฐกิจได้บ้าง ตัวเลขผู้ติดเชื้อต้องอยู่ต่ำกว่าร้อยละ 10 ของยอดการตรวจสอบ 


ทุกอย่างไปได้สวยในเกาหลีใต้

แม้หลายๆ ประเทศจะยังมีปัญหากับการจัดการการแพร่ระบาด แต่สถานการณ์ดูเหมือนจะแตกต่างออกไปในเกาหลีใต้ที่ผู้คนเริ่มออกมาใช้ชีวิตข้างนอกแล้ว ทั้งในสวนสาธารณะ รวมไปถึงร้านขายสินค้าแบรนด์แอปเปิลที่มีประชาชนใส่หน้ากากอนามัยไปต่อแถวซื้อของเป็นจำนวนมาก 

ก่อนหน้านี้ เกาหลีใต้เป็นหนึ่งในประเทศที่มีผู้ติดเชื้อมากที่สุดเป็นอันดับที่ 2 ของโลก แต่รัฐบาลก็สามารถบังคับใช้มาตรการที่มีศักยภาพและยังไม่ทำร้ายเศรษฐกิจมากเกินไป โดยไม่มีการสั่งปิดธุรกิจหรือเส้นทางการเดินทางต่างๆ 

เกาหลีใต้ - ประชาชน - AFP

นอกจากการออกมาอ้อนวอนให้ประชาชนอาศัยอยู่ในบ้านและหลีกเลี่ยงการพบปะผู้คน รัฐบาลยังบังคับใช้นโยบายเชิงรุกด้วยการออกตรวจหาผู้ติดเชื้อและออกโครงการติดตามย้อนรอยผู้ป่วยเพื่อลดการแพร่ระบาดลง ซึ่งความสำเร็จนี้เห็นได้อย่างชัดเจนเมื่อตัวเลขผู้ติดเชื้อรายใหม่ของเกาหลีใต้เริ่มลดลงมาเหลือเพียง 18 ราย เมื่อวันศุกร์ (17 เม.ย.) ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นจำนวนที่น้อยที่สุดตั้งแต่พบผู้ติดเชื้อสูงสุดมากกว่าวันละ 900 ราย ในช่วงที่ผ่านมา  

อย่างไรก็ตาม เพื่อป้องกันความเสี่ยงในการกลับมาระบาดระลอกที่สอง รัฐบาลเกาหลีใต้ยังคงแนะนำประชาชนให้รักษาระยะห่างจากผู้อื่นและรักษาความสะอาดส่วนบุคคลต่อไป 

'คิม กางลิป' ผู้ช่วยรัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุขของเกาหลีใต้ย้ำว่า "เรายังไม่สามารถลดระดับการป้องกันลงได้ เพราะยังมีโอกาสที่จะเกิดการระบาดอยู่" พร้อมชี้ว่า แม้ประเทศจะสามารถควบคุมสถานการณ์ได้ดี แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเชื้อไวรัสหายไปอย่างสิ้นเชิงแล้วและทุกคนยังไม่สามารถกลับไปใช้ชีวิตเหมือนที่เคยเป็นก่อนมีการระบาดได้ 

อ้างอิง; CNN, Bloomberg