ไม่พบผลการค้นหา
สภาคองเกรส ผ่านกฎหมายเยียวยาชาวอเมริกัน 1.9 ล้านล้านดอลลาร์ครั้งประวัติศาสตร์สำเร็จ แม้จะมีการจ้างงานเพิ่ม 3 แสนตำแหน่งในเดือน ก.พ. แต่ชาวอเมริกันยังตกงานมากกว่าปีก่อนหน้าถึง 9.5 ล้านคน

หลังสภาคองเกรสของสหรัฐฯ อภิปรายกันยาวนานกินเวลาหลายสัปดาห์ สภาผู้แทนราษฎร หรือ สภาล่าง ลงมติผ่านร่างกฎหมายช่วยเหลือชาวอเมริกันจากผลกระทบทางเศรษฐกิจและโควิด-19 ด้วยเม็ดเงินงบประมาณ 1.9 ล้านล้านดอลลาร์ หรือราว 58 ล้านล้านบาท ซึ่งรู้จักกันในชื่อ American Rescue Plan 1.9 Trillion ด้วยคะแนนเป็นเอกฉันท์ 220-211 เสียง โดย ส.ส.จาเร็ด โกล์ดเดน จากมลรัฐเมน คือสมาชิกพรรคเดโมแครตเพียงคนเดียวที่โหวตสวนมติพรรค ไม่เห็นชอบกับการผ่านร่างกฎหมายเยียวยาฉบับที่มีการใช้งบประมาณสูงที่สุดฉบับนี้ ขณะที่สมาชิกพรรครีพับลิกันทุกคนโหวต 'ไม่เห็นชอบ' กับกฎหมายนี้อย่างพร้อมเพรียง

AFP - สหรัฐฯ คองเกรส เยียวยาโควิด

ความเคลื่อนไหวดังกล่าวถือเป็นความสำเร็จทางนิติบัญญัติครั้งสำคัญและเป็นชัยชนะครั้งใหญ่ของ โจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐฯ และพรรคเดโมแครตที่ครองเสียงข้างมากอยู่ทั้งในสภาล่างและสภาสูง ด้าน เจน ซากี โฆษกทำเนียบขาวแถลงว่า ไบเดนมีกำหนดลงนามผ่านร่างกฎหมายฉบับนี้ที่ทำเนียบขาวในวันศุกร์ที่ 12 มี.ค. เพื่อให้ทันกับเดดไลน์ของแพ็คเกจการเยียวยาสถานการณ์โควิด-19 ฉบับเดิมที่กำลังจะหมดอายุลงในวันที่ 14 มี.ค.


1.9 ล้านล้านดอลลาร์ ประชาชนได้อะไรบ้าง?

เม็ดเงิน 1.9 ล้านล้านดอลลาร์ หรือราว 58 ล้านล้านบาทถูกแบ่งออกเป็นหลายส่วน ส่วนที่ถูกพูดถึงกันอย่างกว้างขวางมากที่สุดคือก้อน 400,000 ดอลลาร์ หรือราว 12.24 ล้านล้านบาท โดยจะถูกนำไปมอบให้กับประชาชนชาวอเมริกันคนละ 1,400 ดอลลาร์ หรือประมาณ 42,850 บาท ซึ่งจะครอบคลุมราว 90% ของครัวเรือนในสหรัฐฯ ขณะที่งบประมาณ 350,000 ล้านดอลลาร์ หรือราว 10.7 ล้านล้านบาทนั้น จะถูกนำไปช่วยเหลือรัฐบาลของแต่ละมลรัฐและในระดับท้องถิ่น 

AFP - สหรัฐฯ คองเกรส เยียวยาโควิด

ขณะที่โครงการช่วงเหลือผู้ว่างงานก็จะถูกขายออกไป โดยจะได้รับเงินคนละ 300 ดอลลาร์ หรือประมาณ 9,180 บาทต่อสัปดาห์ การขยายโครงการลดภาษีสำหรับครอบครัวที่มีบุตรมากถึง 3,600 ดอลลาร์ หรือราว 110,000 บาทต่อบุตร 1 คน ภาคการศึกษาจะมีเงินงบประมาณช่วยเหลือหลายพันล้านดอลลาร์ตั้งแต่ระดับชั้นอนุบาลถึงมัธยม เพื่อให้สามารถกลับมาเปิดเรียนได้อย่างปลอดภัย ซึ่งงบประมาณยังครอบคลุมถึงการช่วยเหลือธุรกิจขนาดเล็กที่ได้รับผลกระทบอย่างหนักจากโควิด-19 รวมถึงการวิจัย พัฒนา และการส่งมอบวัคซีนอีกด้วย 

นอกจากนั้น การเพิ่มงบ 15% ให้กับโครงการแสตมป์อาหารก็จะได้รับการขยายออกไปจนถึงสิ้นเดือน ก.ย. ขณะที่กลุ่มผู้มีรายได้น้อยจะได้รับความช่วยเหลือเรื่องของค่าเช่าบ้าน นอกจากนั้นก็จะมีการช่วยเหลือประชาชนในการเข้าถึงประกันสุขภาพ ขณะที่โรงพยบาลในชนบทและผู้ให้บริการทางสุขภาพนั้นจะได้รับงบประมาณรวมทั้งสิ้น 8,500 ล้านดอลลาร์ หรือราว 260,000 ล้านบาท

เดือน ก.พ. ที่ผ่านมาสหรัฐฯ ได้รับข่าวดีเมื่อการจ้างงานเพิ่มขึ้นมากกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์ได้คาดการณ์ไว้ โดยในเดือนเดียว ชาวอเมริกันกลับเข้าสู่ตลาดแรงงานมากกว่า 379,000 คน โดยเป็นตำแหน่งงานในอุตสาหกรรมการบริการและการท่องเที่ยวมากถึง 355,000 ตำแหน่ง ขณะที่เดือน ม.ค.นั้นก็มีการจ้างงานมากถึง 166,000 ตำแหน่งเช่นกัน ถือเป็นสัญญาณที่แสดงให้เห็นว่าระบบเศรษฐกิจกำลังเริ่มกลับเข้าสู่แนวโน้มเชิงบวก อย่างไรก็ตาม นับตั้งแต่ ก.พ. 2563 จนถึงปัจจุบัน จำนวนชาวอเมริกันที่ตกงานพุ่งสูงถึง 9.5 ล้านคน


สว.สหรัฐฯ สู้ไม่ถอย ต่อรองแผนเยียวยา 1.9 ล้านล้านดอลลาร์เพื่อ ปชช.สำเร็จ

ก่อนหน้านี้ในวันที่ 6 มี.ค. ร่างกฎหมายฉบับนี้ได้รับการอนุมัติอย่างเป็นทางการจากวุฒิสภาของสหรัฐฯ เรียบร้อยแล้วด้วยคะแนน 50-49 อย่างเป็นเอกฉันท์ของ ส.ว.เดโมแครต ขณะที่สมาชิกวุฒิสภาฝั่งพรรครีพับลิกันจำนวนไม่น้อยแสดงความไม่เห็นด้วยต่อการใช้งบประมาณดังกล่าว โดยมีการโจมตีอย่างต่อเนื่องว่าเป็นการใช้งบประมาณที่มากจนเกินไปและจะก่อหนี้สาธารณะก้อนโต อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันมีชาวอเมริกันอย่างน้อย 9.5 ล้านคนที่ต้องตกงาน ขณะที่มีประชาชนจำนวนมากกำลังเผชิญกับความยากลำบากในการหาเลี้ยงชีพ ซึ่งทางพรรคเดโมแครตเห็นว่าการผ่านร่างกฎหมายฉบับนี้เป็นสิ่งที่สำคัญและจำเป็นจะต้องทำ เพื่อช่วยให้ประชาชนและประเทศอยู่รอดจนกว่าสถานการณ์จะดีขึ้น

ซึ่งในการพิจารณาการใช้เม็ดเงิน 1.9 ล้านล้านดอลลาร์นี้ส.ว.ฝั่งเดโมแครตยอมปรับลดเม็ดเงินช่วยเหลือประชาชนลงจาก 400 ดอลลาร์เป็น 300 ดอลลาร์ หรือราว 12,200 บาทเป็น 9,100 บาทต่อคนต่อสัปดาห์แทนเพื่อประนีประนอมรับฟังความเห็นต่างของ ส.ว.ภายในพรรคเดโมแครตเอง ซึ่งใช้เวลาแก้ไขรายละเอียดยาวนาน 12 ชม.ในวันที่ 5 มี.ค.ที่ผ่านมา และยังสามารถต่อรองเพื่อขยายเวลาการจ่ายเงินช่วยเหลือประชาชนออกไปได้เพิ่มอีก 1 เดือนเต็มจนถึงสิ้นเดือน ก.ย. โดยประชาชนจะได้รับเงินจากรัฐบาลกลางรวมทั้งสิ้นราว 1,400 ดอลลาร์หรือกว่า42,700 บาทต่อคน ซึ่งเป็นเงินที่ไม่เกี่ยวข้องกับเงินช่วยเหลือที่ชาวอเมริกันจะได้รับจากรัฐบาลของแต่ละมลรัฐที่ตนอาศัยอยู่

AFP - สหรัฐฯ โควิด สภาคองเกรส