นายแพทย์โอภาส การย์กวินพงศ์ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุขและโฆษกกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ว่า ในช่วงเทศกาลวันอาสาฬหบูชาและวันเข้าพรรษา ได้กำหนดวันห้ามขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ตามพระราชบัญญัติควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ. 2551 กระทรวงสาธารณสุข จึงขอความร่วมมือผู้ประกอบการค้าทั่วประเทศให้ปฏิบัติตามกฎหมาย ซึ่งนอกจากจะช่วยให้ประชาชนรักษาศีลตามหลักพระพุทธศาสนาแล้ว ยังช่วยลดการเกิดปัญหาสังคม เช่น อุบัติเหตุจราจร ความรุนแรงในสังคม รวมทั้งอาชญากรรมต่างๆ
โดยกำหนดการห้ามจำหน่าย จะเริ่มตั้งแต่วันที่ 27 ก.ค. 2561 ถึงวันที่ 28 ก.ค. 2561 (ห้ามขายตั้งแต่เวลาหลังเที่ยงคืนวันที่ 26 ก.ค. 2561 ถึงเที่ยงคืนวันที่ 28 ก.ค. 2561) ร้านค้าทุกแห่งต้องงดจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิดทั้งหมด โดยสำนักงานคณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ กรมควบคุมโรค จะร่วมกับสาธารณสุขจังหวัดทั่วประเทศ ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจ ออกตรวจร้านค้าในพื้นที่ หากพบผู้ฝ่าฝืนให้ลงโทษโดยไม่มีข้อยกเว้น โดยมีโทษจำคุก 6 เดือน ปรับ 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ด้านนายแพทย์สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า ในการควบคุมการจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิดในวันอาสาฬหบูชา และวันเข้าพรรษาปีนี้ กระทรวงสาธารณสุขได้ทำหนังสือถึงผู้ว่าราชการจังหวัดทั่วประเทศในฐานะประธานคณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ระดับจังหวัด ขอให้เข้มงวดดำเนินการให้ปฏิบัติตามกฎหมายห้ามขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิด ยกเว้นการซื้อขายของผู้ประกอบการค้าสุรา พร้อมทั้งขอความร่วมมือเจ้าหน้าที่ตำรวจ ช่วยดูแลไม่ให้มีการฝ่าฝืนกฎหมาย นอกจากนี้ได้จัดทีมเฉพาะกิจออกตรวจเข้มการขายเครื่องดื่ม แอลกอฮอล์ หากพบมีการฝ่าฝืนกฎหมายจะดำเนินคดีอย่างไม่ละเว้น
ทั้งนี้ ในวันอาสาฬหบูชา และวันเข้าพรรษา ปี 2560 ที่ผ่านมา กรมควบคุมโรคได้จัดทีมเจ้าหน้าที่ร่วมกับตำรวจออกตรวจ เฝ้าระวังและประชาสัมพันธ์กฎหมาย 133 ราย พบกระทำความผิดดำเนินคดีกล่าวโทษ 9 ราย เป็นความผิดมาตรา 28 ขายในวันห้ามขาย 8 กรณี ความผิดมาตรา 27 ขายในที่ห้ามขาย 1 กรณี และความผิดมาตรา 32 เรื่องการโฆษณา 1 กรณี โดยบางรายกระทำความผิดมากกว่า 1 กรณี