นายจาตุรนต์ ฉายแสง แกนนำพรรคเพื่อไทย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กถึงกรณีการเดินคารวะแผ่นดิน ของนายสุเทพ เทืองสุบรรณ สุเทพ เทือกสุบรรณ ผู้ร่วมจัดตั้งพรรครวมพลังประชาชาติไทยและแกนนำพรรค ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า "การออกมาเดินของนายสุเทพ สะท้อนอะไร"

การเดินของนายสุเทพกับพวกแสดงให้เห็นว่าการดำเนินการของพรรค คงจะยากมากที่จะประสบความสำเร็จ แต่ถึงแม้ปฏิกิริยาที่มีต่อนายสุเทพ จะสะท้อนความเห็นที่ยังแตกต่างในสังคมอย่างลึกซึ้ง การที่นายสุเทพเลือกที่จะเข้าร่วมในการเลือกตั้ง ความแตกต่างทางความคิดเห็นจะไม่นำไปสู่ความรุนแรงใดๆ แตกต่างจากเมื่อนายสุเทพเคลื่อนไหวต่อต้านขัดขวางการเลือกตั้งก่อนการรัฐประหาร

การเดินของนายสุเทพไม่ได้รับการต้อนรับสนับสนุนหรือถูกตั้งคำถาม วิพากษ์วิจารณ์หรือแม้กระทั่งด่าประณามด้วยเหตุผลที่ต่างๆ กันไป ผู้ที่อยากให้มีการเลือกตั้ง นิยมประชาธิปไตย ยังจำภาพการเดินเชิญชวนคนไปชุมนุมและขอบริจาคเงินไปล้มรัฐบาลและเชิญชวนให้กองทัพทำรัฐประหาร ยังไม่เชื่อว่านายสุเทพจะมีความเชื่อถือศรัทธาอะไรต่อการเลือกตั้งและระบอบประชาธิปไตย ทั้งยังจำไม่ลืมว่านายสุเทพกับพวกคือต้นเหตุสำคัญส่วนหนึ่งที่ให้ประเทศไทยต้องตกอยู่ในสภาพเสียหายยับเยินอย่างที่ผ่านมากว่า 4 ปี

ผู้ที่เคยสนับสนุนหรือแม้แต่ศรัทธานายสุเทพ คงผิดหวังต่อนายสุเทพในแง่มุมที่ต่างกันไป พวกที่ไม่เชื่อถือการเลือกตั้ง ย่อมไม่เห็นประโยชน์อะไรจากการที่นายสุเทพ จะตั้งพรรคการเมืองเข้ารับการเลือกตั้ง พวกที่นิยมนายสุเทพ เพราะเข้าใจว่านายสุเทพเสร็จภารกิจในการล้มรัฐบาลแล้ว ไปบวชรวมทั้งกล้าประกาศไม่เกี่ยวข้องกับการเมืองอีก แต่กลับมาเป็นผู้นำพรรคตัวจริง ย่อมรู้สึกได้ว่านายสุเทพไม่รักษาคำพูด พวกที่นิยมพลพรรคตลอดจนกรรมการบริหารพรรคและหัวหน้าพรรคต้องมาเห็นนายสุเทพนำอยู่คนเดียวคงไม่พอใจอีก

โดยส่วนตัวแล้วไม่อยากให้มีการต่อต้านขัดขวางการเดินหาเสียงของนายสุเทพ หากไม่ชอบก็แค่วางเฉย ถ้าไปต่อต้านกันมาก อาจมีคนสวมรอยวางแผนทำให้เกิดความวุ่นวาย จะสมประโยชน์ของผู้มีอำนาจที่ต้องการจะบอกว่าการเลือกตั้งทำให้เกิดความขัดแย้ง ทั้งๆ ที่การเลือกตั้งเป็นวิธีการที่จะแก้ปัญหาการที่ผู้คนมีความเห็นต่างกันในเรื่องใครควรเป็นรัฐบาลและรัฐบาลควรมีนโยบายอย่างไร โดยทุกฝ่ายไม่ต้องใช้ความรุนแรงแต่อย่างใด

การเดินของนายสุเทพ ยังแสดงให้เห็นปัญหาการเลือกตั้งที่ไม่เสรีไม่เป็นธรรมอย่างชัดเจนอีกด้วยกล่าวคือ นายสุเทพเดินพบประชาชนได้อยู่ฝ่ายเดียว พรรคอื่นจะทำบ้างอาจมีปัญหาผิดกฎหมาย ก็คือเลือกปฏิบัติ แต่การเดินทักทายประชาชนเป็นกิจกรรมเพียงเล็กน้อย ไม่สามารถพูดถึงนโยบายหรือแนวทางแก้ปัญหาที่เป็นเรื่องเป็นราวอะไรได้ ประชาชนก็ไม่ได้รับข้อมูลว่าพรรคไหนมีนโยบายอะไร จึงเป็นการเลือกตั้งที่ไม่เสรี ทางที่ดีควรจะรีบเปิดให้พรรคการเมืองหาเสียงสื่อสารกับประชาชนได้อย่างไม่มีข้อจำกัดจะเป็นประโยชน์มากกว่า