คณะประสานเสียงเด็กชายแห่งรัฐและคริสตจักรเบอร์ลิน (SDB) สถาบันเก่าแก่ที่ก่อตั้งขึ้นเมื่อ ค.ศ.1465 ในสังกัดมหาวิทยาลัยศิลปะ (UdK) กรุงเบอร์ลินของเยอรมนี ถูกฟ้องร้องในข้อหา 'อคติทางเพศ' โดยเด็กหญิงวัย 9 ปีรายหนึ่งซึ่งข่าวไม่ระบุชื่อ ให้แม่ของเธอเป็นผู้ยื่นฟ้องแทน หลังจากเธอเข้ารับการทดสอบเพื่อคัดตัวกับ SDB เมื่อเดือน มี.ค. แต่ไม่ผ่านการคัดเลือก
โฆษกของ SDB ระบุว่า การตัดสินใจไม่เลือกเด็กหญิงคนดังกล่าวเข้าร่วมคณะประสานเสียง ไม่เกี่ยวข้องกับอคติทางเพศ แต่เป็นเพราะโทนเสียงของเธอไม่ใช่เสียงที่คณะต้องการ พร้อมยืนยันว่าถ้าเด็กผู้หญิงคนใดมีความมุ่งมั่นและมีพรสวรรค์ที่โดดเด่น ก็มีโอกาสได้รับเลือกเป็นสมาชิกได้
อย่างไรก็ตาม ซูซาน บรักไคลน์ ทนายความตัวแทนเด็กหญิงและแม่ เปิดเผยกับเดอะการ์เดียนและเอพีว่า คำแถลงของโฆษก SDB เป็นประเด็นที่น่าสงสัย เพราะหลังจากคัดตัวกับ SDB แล้ว ทางมหาวิทยาลัยต้นสังกัดอย่าง UdK กลับเสนอชื่อเด็กหญิงคนดังกล่าวไปยังสถาบันดนตรี 'จูเลียส สเติร์น' ซึ่งเป็นสถาบันมีชื่อเสียงและรับเฉพาะเด็กที่มีพรสวรรค์หรือความสามารถโดดเด่นทางด้านดนตรี
ขณะที่เงื่อนไขในการคัดตัวเข้าคณะประสานเสียง SDB สำหรับเด็กผู้ชาย ไม่เน้นว่าต้องมีพรสวรรค์หรือมีความสามารถโดดเด่น แต่ระบุเพียงว่า เด็กผู้ชายอายุตั้งแต่ 5 ถึง 7 ปี มีสิทธิสมัครคัดตัวได้เลย และผู้ที่ได้รับเลือกเข้าคณะ SDB จะได้รับการฝึกฝนร้องเพลงโดยไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ
บรักไคลน์ระบุด้วยว่า ก่อนหน้านี้ในปี 2016 และ 2018 เด็กหญิงคนดังกล่าวเคยสมัครขอคัดตัวกับ SDB มาแล้ว แต่ถูกปฏิเสธไม่ให้คัดตัวตั้งแต่ต้น และในเดือน ธ.ค.2018 คณบดีคนหนึ่งของมหาวิทยาลัย UdK ได้ส่งจดหมายชี้แจงถึงครอบครัวของเด็กหญิงโดยระบุว่า ไม่เคยมีเด็กผู้หญิงเป็นสมาชิกคณะประสานเสียงเด็กชายมาก่อน แต่หลังจากนั้น เด็กหญิงกลับถูกเรียกไปทดสอบในช่วงคัดตัวสมาชิกคณะประสานเสียงเมื่อเดือน มี.ค.2019 แต่ไม่ผ่านการคัดเลือก ทำให้เธอและครอบครัวตัดสินใจนำเรื่องนี้สู่กระบวนการทางกฎหมาย
ศาลชั้นต้นในกรุงเบอร์ลินกำหนดสอบปากคำผู้เกี่ยวข้องกับคดีนี้ในวันที่ 16 ส.ค. และทนายความบรักไคลน์ระบุเพิ่มเติมว่า การเลือกปฏิบัติหรือการมีอคติด้วยเหตุแห่งเพศ เข้าข่ายละเมิดกฎหมายรัฐธรรมนูญเยอรมนีที่คุ้มครองความเท่าเทียมทางเพศ
ส่วนเอพีรายงานว่า มีผู้สนับสนุนคณะประสานเสียงเด็กชาย SDB เช่นกัน โดยอ้างถึงคอลัมนิสต์หนังสือพิมพ์กระแสหลัก และนักดนตรีที่มีชื่อเสียงในเยอรมนี 2 ราย มองว่า การไม่รับเด็กหญิงเป็นสมาชิกคณะประสานเสียงเด็กชายเป็นเรื่องเข้าใจได้ เพราะนอกจากจะเป็นธรรมเนียมปฏิบัติเก่าแก่ของสถาบันแล้ว ยังมีเรื่องโทนเสียงของเด็กผู้หญิงและเด็กผู้ชายที่ 'แตกต่างกัน' การนำประเด็นอคติทางเพศมาฟ้องร้องกันจึงถือเป็นเรื่องไม่เหมาะสมอย่างยิ่ง พร้อมย้ำว่า 'เสรีภาพด้านรสนิยมศิลปะ' ก็ต้องได้รับความคุ้มครองเช่นกัน
ส่วนเดอะการ์เดียนรายงานคำแย้งของทนายบรักไคลน์ ซึ่งอ้างอิงงานวิจัยของ 'เดวิด ฮาวเวิร์ด' นักวิชาการชาวอังกฤษที่ศึกษาเรื่องเพศสภาพในคณะประสานเสียงในโบสถ์ โดยยกสมมติฐานเรื่องเสียงของเด็กชายและเด็กหญิงแตกต่างกันมาทดสอบ เนื่องจากมีความเชื่อในวงการดนตรีสมัยโบราณว่าเสียงของเด็กผู้ชายที่ยังไม่เข้าสู่วัยเจริญพันธุ์มีเอกลักษณ์โดดเด่น ไม่เหมือนเสียงเด็กผู้หญิง แต่ผลวิจัยของเขาสรุปว่า ผู้ฟังเพลงประสานเสียงส่วนใหญ่ไม่สามารถแยกความแตกต่างระหว่างเสียงเด็กผู้หญิงและเด็กผู้ชายที่ร้องเพลงเดียวกันได้
ก่อนหน้านี้ เลสลีย์ การ์เรตต์ นักร้องหญิงเสียงโซปราโนชาวอังกฤษ หนึ่งในคณะกรรมการโอเปราสหราชอาณาจักร เคยออกมาวิพากษ์วิจารณ์วงการคณะประสานเสียงที่เชื่อว่าเสียงของเด็กชายนั้นมีความบริสุทธิ์กว่าเสียงเด็กผู้หญิงว่า 'คร่ำครึ' และเป็นความเชื่อในยุคโบราณที่ผ่านพ้นไปแล้ว พร้อมระบุว่าทุกวันนี้ เด็กหญิงและผู้หญิงที่มีความสามารถด้านการร้องเพลงประสานเสียงไม่แพ้ผู้ชาย ไม่ได้รับโอกาสทางการศึกษาหรือความก้าวหน้าทางอาชีพการงาน และค่านิยมเหล่านี้สมควรถูกตั้งคำถามและเปลี่ยนแปลง
การ์เรตต์ยกตัวอย่างคณะประสานเสียงของวิทยาลัยคิงส์คอลเลจในลอนดอน ซึ่งเป็นคณะที่มีชื่อเสียงระดับประเทศและระดับโลก ไม่เคยเปิดรับนักร้องผู้หญิงเลย ทั้งที่คิงส์คอลเลจเป็นวิทยาลัยแห่งแรกที่เปิดรับนักศึกษาผู้หญิง แม้ว่าสถาบันแห่งนี้จะก่อตั้งขึ้นเพื่อเป็นสถานศึกษาของผู้ชายมานานหลายร้อยปีก็ตาม
ที่มา: AP/ The Guardian