สำนักข่าว CNN รายงานว่าเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาตามเวลาท้องถิ่นสหรัฐฯ เจ้าหน้าที่ระดับสูงของทำเนียบขาวได้ให้ข้อมูลกับผู้สื่อข่าวว่า นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีวหรัฐฯ จะประกาศมาตรการคว่ำบาตรที่รุนแรงที่สุดต่อเกาหลีเหนือระหว่างการขึ้นกล่าวสุนทรพจน์ของเขาในการประชุมการดำเนินการทางการเมืองฝ่ายอนุรักษ์นิยม หรือ Conservative Political Action Conference โดยตั้งใจจะใช้ประเด็นของการคว่ำบาตรเกาหลีเหนือเป็นเนื้อหาสำคัญของการประชุม
อย่างไรก็ตามเมื่อถึงช่วงเวลาที่นายทรัมป์ขึ้นกล่าวสุนทรพจน์จริง เขากลับใช้เวลาพูดถึงประเด็นอื่นๆไปกว่า 80 นาทีก่อนที่จะเข้าสู่เรื่องการคว่ำบาตรเกาหลีเหนือ ซึ่งก็เป็นการกล่าวแบบรวบรัดเท่านั้น โดยนายทรัมป์ระบุว่ารัฐบาลสหรัฐฯได้ทำการคว่ำบาตรเกาหลีเหนือเพิ่มเติมแล้ววันนี้ และเขาก็คาดหวังว่าจะมีสิ่งดีๆเกิดขึ้นบ้างหลังจากนี้
รายละเอียดการคว่ำบาตรทางการค้าและเศรษฐกิจของเกาหลีเหนือครั้งล่าสุดที่นายทรัมป์กล่าวถึงนั้นประกอบไปด้วยการคว่ำบาตรหน่วยงาน 27 แห่ง และเรือเดินสมุทรเพื่อส่งสินค้าขนาดใหญ่อีก 28 ลำที่เข้าข่ายมีส่วนเกี่ยวข้องกับการทำธุรกิจกับเกาหลีเหนือซึ่งกระจายอยู่ตามประเทศต่างๆไม่ว่าจะเป็นจีน สิงคโปร์ หรือเกาหลีเหนือเอง
นายสตีเฟน มนูชิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังสหรัฐฯกล่าวว่า รัฐบาลสหรัฐฯต้องการเพิ่มมาตรการคว่ำบาตรอย่างรุนแรงนี้เพื่อยุติการลักลอบใช้พื้นที่ต่างๆทั่วโลกเป็นสถานที่ขนส่งสินค้าเพื่อหลบเลี่ยงมาตรการคว่ำบาตร ซึ่งนั่นหมายรวมถึงเรือขนส่งสินค้า หน่วยงาน บริษัทสัญชาติเกาหลีเหนือ 16 แห่ง และบริษัทต่างๆทั่วโลกที่ดำเนินธุรกิจให้กับรัฐบาลของนายคิมจองอึน ผู้นำสูงสุดเกาหลีเหนือ
นอกจากนี้ทางกระทรวงการคลังสหรัฐฯ กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ และหน่วยยามฝั่งสหรัฐฯ ยังได้ออกประกาศย้ำเตือนอย่างเป็นทางการไปยังภาคธุรกิจอื่นๆอีกด้วยว่าห้ามไปยุ่งเกี่ยวหรือช่วยเหลือบริษัทที่เกี่ยวข้องกับรัฐบาลเกาหลีเหนืออย่างเด็ดขาด หากไม่อยากได้รับผลกระทบจากการคว่ำบาตรในครั้งนี้ และนายทรัมป์ได้ยืนยันว่าถ้ามีการตรวจพบว่าบริษัทใดบริษัทหนึ่งลักลอบให้ความช่วยเหลือส่งสินค้าและทำธุรกิจกับเกาหลีเหนือ นอกจากบริษัทนั้นจะถูกแบนแล้วยังจะถูกตัดสัมพันธ์ไม่ให้ทำธุรกิจกับสหรัฐฯอีกต่อไปด้วย