ไม่พบผลการค้นหา
แกนนำพรรคเพื่อไทยระบุกลางวงเสวนา รธน.ปราบโกง ชี้ รธน.ปี 60 ทำลายกลไกการตรวจสอบขององค์กรอิสระ ส่งเสริมการทุจริตให้การรองรับประกาศ - คำสั่ง คสช. ขณะที่หัวหน้า ปชป. สับ รธน.ปราบทุจริตถอยหลังกว่าฉบับปี 50

คณะกรรมาธิการ(กมธ.)การเมือง สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) จัดงานเสวนาเรื่อง "รัฐธรรมนูญปราบโกง จะสัมฤทธิ์ผลได้จริงหรือไม่" เพื่อรับฟังความเห็นต่อกลไกป้องกันการปราบทุจริต ตามมาตรา 63 ของรัฐธรรมนูญ โดยมี นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ระบุในงานตอนหนึ่งว่า การตั้งชื่อว่ารัฐธรรมนูญฉบับปราบโกง ถือเป็นการตลาดที่ดีมาก เพราะตอนนั้นกำลังจะทำประชามติ ผู้ร่างเห็นว่าการทุจริตคือภัยสังคมใหญ่หลวง ซึ่งตนประกาศชัดว่า ไม่รับรัฐธรรมนูญฉบับนี้ เพราะการปราบทุจริตจะไม่สัมฤทธิ์ผลอย่างที่โฆษณาไว้ หลายเรื่องถดถอยไปจากรัฐธรรมนูญฉบับเดิม เช่น การถอดถอนผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองหายไป แม้ที่ผ่านมาจะไม่ประสบความสำเร็จ แต่การมีกระบวนการถอดถอน ทำให้การเชื่อมโยงการตรวจสอบระหว่าง สถาบันการเมือง ตุลาการ และองค์กรอิสระ หายไป  

“มาตรา 63 การมีส่วนร่วมของประชาชน อาจเข้ามามีส่วนร่วมในการตรวจสอบทรัพย์สินที่มาแสดง แต่กฎหมาย ป.ป.ช.ใหม่ กลับเปลี่ยนให้การเปิดบัญชีทรัพย์สินทำโดยสรุป ซึ่งจะทำให้การตรวจสอบโดยสังคมยากขึ้น ที่บอกมีที่ดิน มีนาฬิกากี่เรือน จะเปิดเผยโดยสรุปอย่างไร ลำพังเพียงกฎหมายไม่ใช่คำตอบ ผู้ปฏิบัติและสังคมจะเป็นผู้ขับเคลื่อนการปราบทุจริตได้มากกว่า แล้วหากจะวัดกันว่าใครเอาจริงเอาจัง ต้องวัดเอาว่าปราบโกงในแวดวงของตัวเองหรือเปล่า แน่นอนรัฐบาลทุกชุดปราบโกง แต่ปราบโกงแค่ฝ่ายตรงข้าม” นายอภิสิทธิ์ กล่าว  

อภิสิทธิ์ พงศ์เทพ S__8945683.jpg


ด้าน นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา แกนนำพรรคเพื่อไทย เป็นห่วงการใช้คำว่า รัฐธรรมนูญปราบโกง จะเหมือนคำว่า ขอเวลาอีกไม่นาน เพราะเหมือนโฆษณาชวนเชื่อ หากใช้คำว่า โกงอำนาจไปจากประชาชน น่าจะเหมาะสมมากกว่า การทุจริตนั้น เกิดมานานก่อนที่ประเทศไทยจะเป็นประชาธิปไตย ก่อนมีนักการเมืองมาจากการเลือกตั้งอีก การไม่เป็นประชาธิปไตย ทำให้การทุจริตยิ่งมีมาก ผู้มีอำนาจมีโอกาสทุจริตได้ทั้งสิ้น ต้องจัดระบบการตรวจสอบผู้มีอำนาจให้กว้างขวาง ตรวจสอบองค์กรที่มีหน้าที่ตรวจสอบด้วย  

นายพงศ์เทพ กล่าวว่า ตอนนี้กลไกการตรวจสอบเสียไปหมดคณะกรรมการ ป.ป.ช. ตุลาการ และองค์กรอิสระ โดยบุคคลากรในองค์กรเหล่านี้มาจากไหน มาจากความเห็นชอบของ สนช. ในอนาคตก็จะมาจากการเห็นชอบของ ส.ว.ที่มาจากภูเขา คสช.เป็นต้นน้ำเหมือนสนช. เหมือนที่นายวิษณุ บอก ลงเรือแป๊ะต้องตามใจแป๊ะ หากเป็นแบบนี้ ก็ตรวจสอบไม่ได้ เพราะต้องตามใจแป๊ะ ถ้าคสช.ตั้งใจทำเพื่อบ้านเมือง ขอเวลาสั้นๆ ไม่คิดสืบทอดอำนาจ ก็คงสบายใจได้ แต่ถ้าหากคสช.กลับมาอีก องค์กรอิสระเหล่านี้ จะทำให้ใครสบายใจได้ว่า จะตรวจสอบ คสช.ได้อย่างตรงไปตรงมา การตรวจสอบต้องมีส่วนร่วม ต้องชี้แจงต่อสังคมให้ได้เรื่องการพิจารณา ทำไมนาฬิกา 25 เรือนใช้เวลา 8 เดือน ทำไมบางคดียากกว่าแต่ 3 เดือนก็เสร็จ  

“รัฐธรรมนูญฉบับนี้เป็นฉบับส่งเสริมการโกง ในมาตรา 279 รับรองประกาศและคำสั่งหรือการกระทำของคสช.ชอบด้วยรัฐธรรมนููญและกฎหมาย ไม่ว่าทุจริต ก็จะถูกตีความว่าชอบด้วยกฎหมายทั้งสิ้น ต้องให้นายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธานกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) ผู้ร่างยืนยันต่อสาธารณชน ว่าไม่ได้หมายความว่า เมื่อ คสช.ทุจริต จะชอบด้วยรัฐธรรมนูญและกฎหมาย ที่ผ่านมาการซื้ออาวุธทั้งเรือเหาะที่บินไม่ได้ ไม้ล้างป่าช้าราคาเกือบล้าน การจัดซื้อกองทัพทำกันเองได้ ไม่เหมือนรัฐบาลที่ต้องถูกฝ่ายค้านตรวจสอบ แต่กองทัพซื้ออะไรมาเยอะแยะได้ ไม่มีใครตรวจสอบ ถ้าเป็นแบบนี้จะวางระบบอย่างไร หากซื้ออาวุธดีมีคุณภาพทหารก็สบายใจ ซื้อมาต้องใช้ได้จริง ไม่ใช่สักแต่ซื้อ” นายพงศ์เทพกล่าว