มติชนออนไลน์ รายงานว่า จากกรณีที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ให้ความเห็นเรื่องระบบทีแคสว่ามีความพร้อมมากน้อยแค่ไหน มีหลายคนอยากให้กลับไปแบบเดิมคือการสอบแอดมิชชั่น หรือสอบเอ็นทรานซ์ แต่ต้องไปเปรียบเทียบระหว่างของเก่าและของใหม่ว่ามีผลดีอย่างไร หากคิดระบบใหม่ออกมา แต่ของเก่ายังไม่พร้อม ก็เกิดปัญหาอีก นั้น
นายประเสริฐ คันธมานนท์ เลขาธิการที่ประชุมอธิการบดีแห่งประเทศไทย (ทปอ.) กล่าวว่า ในระยะแรกยอมรับว่าการปรับระบบใหม่อาจมีปัญหาบ้าง นายกรัฐมนตรีจึงให้ไปศึกษาข้อผิดพลาดว่าจะปรับเปลี่ยนอย่างไร ซึ่งนายกฯเข้าใจปัญหาระบบเก่าที่ทำให้เด็กวิ่งรอกสมัครสอบ เสียค่าใช้จ่ายในการเดินทางจำนวนมาก ไม่อยากให้การสมัครเรียนมหาวิทยาลัยเป็นภาระของผู้ปกครอง รัฐบาลจึงให้นโยบายให้จัดการปัญหานี้ จึงเกิดระบบทีแคสขึ้นมา
"ระบบทีแคส สามารถจัดการปัญหาการวิ่งรอกสมัครสอบ และแก้ปัญหาเรื่องค่าใช้จ่ายที่ผู้ปกครองต้องแบกรับได้จริง แต่ยอมรับว่าระยะแรกอาจมีปัญหาเรื่องการจัดการบ้าง และคิดว่า นายกฯ พูดเป็นกลาง เพราะเข้าใจปัญหาทุกฝ่าย นอกจากนี้นายกฯ ยังพูดว่าปัญหาสำคัญอยู่ที่การยอมรับซึ่งกันและกัน ไม่ได้โทษว่าใครถูกใครผิดและทุกคนต้องเข้าใจกันด้วย อย่างไรก็ตาม ทปอ.จะรับฟังทุกความคิดเห็น รับฟังทุกปัญหาและข้อเสนอแนะ เพื่อนำมาปรับปรุงระบบให้ดีขึ้นอีกในปีหน้า"นายประเสริฐ กล่าว
สำหรับทีแคสรอบ 4 แอดมิชชั่น ในวันที่ 2 พบว่าระบบลื่นไม่พบปัญหาเหมือนวันแรก ขณะที่จำนวนผู้สมัครวันแรกมีประมาณ 12,000 คน ซึ่งยังมีที่ว่างรับนักศึกษากว่า 83,000 คน จึงมีข้อกังวลว่าจะไม่มีเด็กเข้ามาสมัคร แต่ต้องดูกันต่อไปเพราะยังมีเวลาให้เด็กสมัครถึงวันที่ 16 มิถุนายนนี้
ข่าวเกี่ยวข้อง :