นพ.กัมปนาท พรยศไกร เจ้าของเพจ Sarikahappymen ฝากเตือนไปยังคุณผู้ชายที่ต้องการฉีด หรือฝังมุกที่อวัยวะเพศของตัวเอง ขอให้คิดให้ดีก่อน เพราะการฉีด หรือฝังมุก เป็นเหมือนโศกนาฏกรรมของคนที่เดินทางผิด และเป็นเรื่องที่แพทย์ประจำสาขานี้พบบ่อยจนเบื่อที่สุดด้วย

โดยการฉีดสารแปลกปลอมที่ว่านี้มีมานานแล้ว และผลคือเน่ามานักต่อนัก ข่าวออกทีก็เปลี่ยนชื่อที จากฉีดน้ำมันมะกอก เป็นฉีดพาราฟิน เป็นน้ำมันมวย เปลี่ยนเป็นฉีดเพนนิซิลิน ฉีดคลอแรม สารพัดจะตั้งชื่อให้ดูดี แต่สุดท้ายปลายทางเหมือนกันคือเน่า สำหรับใครที่บอกว่าคนนั้นทำมาดี ไม่เห็นเน่าเลย เพราะการโฆษณาต้องนำเคสที่สำเร็จมาโชว์ ทำให้หลายคนไม่รู้หลงผิดคิดไปทำกัน

ซึ่ง นพ.กัมปนาท ได้เล่าประสบการณ์ว่า มีคนไข้มาปรึกษาทุกวัน แล้วแต่อาการทั้งหนักเบาต่างกันไป บางรายแค่ทำความสะอาด แต่ถ้าบางรายทำความสะอาดไม่ได้ ก็อยากเอาออกเพราะกลัว ส่วนบางคนสถานหนัก คือ เน่า วิธีการรักษามีวิธีเดียว คือต้องลอกเอาหนังที่มีสิ่งแปลกปลอมพวกนี้ออกให้หมด ดังนั้นหลังแก้ไปแล้วอวัยวะเพศจะมีขนาดเล็กลงและสั้นลงมากๆ และอีกประการคือ สิทธิทางการแพทย์ต่างๆ คนไข้ไม่สามารถนำมาใช้ได้ ทั้งบัตรทอง ประกันสังคม ข้าราชการ เบิกไม่ได้ทั้งนั้น ต้องจ่ายค่ารักษาพยาบาลเอง ซึ่งอยู่ราว 2 หมื่น - 1 แสนบาท ขึ้นอยู่กับโรงพยาบาล

แต่ถ้าไม่เอาออก ไม่แก้ไข จะเกิดอะไรขึ้น นพ.กัมปนาท บอกว่า ด้วยความที่เป็นสารแปลกปลอม ร่างกายจะต่อต้านเป็นแผลเป็นๆ หายๆ อยู่แล้ว บางคนพยายามซื้อยามากินเอง หายามาล้างแผล ซึ่งจะบรรเทาไปได้สักระยะแล้วจะกลับไปเป็นอีก จนสุดท้ายก็เป็นมะเร็ง ถ้ารักษาทันคือตัดทิ้ง ถ้าไม่ทันอาจถึงขั้นเสียชีวิตได้ ดังนั้น จึงอยากย้ำให้ผู้ชายคิดให้ดีๆ ก่อนจะไปฉีด เพราะเมื่อทำแล้วจะย้อนเวลากลับไม่ได้อีก มีแต่เสียกับเสีย 

ส่วนการฝังมุกนั้น มีความเสี่ยงถึงแม้จะไม่ใช่สารเคมี แต่ถ้าระหว่างการผ่าตัดเจอเครื่องมือไม่สะอาด บาดทะยักมีสิทธิเป็นได้ และถ้าผู้ทำไม่เชี่ยวชาญด้วยอีก เสี่ยงโดนจุดสำคัญเช่น ท่อปัสสาวะ หรือเส้นเลือดได้ ต้องไปแก้ที่โรงพยาบาลอีกอยู่ดี 

โดยในตอนท้าย คุณหมอเจ้าของเพจ Sarikahappymen ฝากถึงคุณผู้ชายหลายๆคนว่า ธรรมชาติออกแบบมาให้ดีอยู่แล้ว ใช้ที่มีให้ดีก่อนค่อนไปหาเรื่องเดือดร้อนใส่ตัว ส่วนคุณผู้หญิงก็ต้องระวังเช่นกัน ถ้าเจอหรือพบว่าประหลาดก็อย่าไปข้องแวะด้วย เพราะอาจมีภัยร้ายแฝงมาก็ได้ อย่าเสี่ยงเลย