จากกรณีที่มีกรรมการบริหารและ ส.ส. พรรคอนาคตใหม่ออกมาแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนเมื่อวันที่ 4 มิ.ย.ที่ผ่านมาว่า ส.ส.ของพรรคอนาคตใหม่มีคนติดต่อมาเพื่อขอซื้อตัวให้เป็นงูเห่าโดยเสนอผลประโยชน์หรือทุ่มซื้อตัวสูงถึง 120 ล้านบาทต่อคนนั้น
ล่าสุดนายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ได้เดินทางมายื่นคำร้องต่อ กกต. เพื่อขอให้ตรวจสอบและเรียก หัวหน้าพรรค โฆษก และ ส.ส.ของพรรคอนาคตใหม่ทั้ง 13 ราย มาไต่สวน สอบสวน เพื่อแสวงหาข้อเท็จจริงให้เป็นที่ยุติ กรณีมีบุคคลและหรือคณะบุคคลมาเสนอให้เงินหรือผลประโยชน์หรือซื้อตัว ส.ส.พรรคอนาคตใหม่ 50-120 ล้านว่าจริงหรือเท็จประการใด
กรณีดังกล่าวถือเป็นเรื่องใหญ่ สมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ไม่อาจปล่อยผ่านไปได้ เพราะกระทบต่อชื่อเสียงและเกียรติภูมิของระบบรัฐสภาไทย และการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข เนื่องจากหากเป็นความจริง จะถือเป็นการกระทำที่เข้าข่ายผิดกฎหมายอย่างรุนแรงหลายฉบับหลายมาตรา
ทั้งกฎหมายอาญา ม.149 และกฎหมายพรรคการเมือง 2560 ม.28 ม.29 ม.44 ม.46 ม.88 วรรคสอง และถือได้ว่าเป็นกระทําการล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข หรือเพื่อให้ได้มาซึ่งอํานาจในการปกครองประเทศโดยวิธีการซึ่งมิได้เป็นไปตามวิถีทางที่บัญญัติไว้ ในรัฐธรรมนูญ บุคคลของพรรคการเมืองใดกระทำเช่นนั้น จะเป็นมูลเหตุสำคัญที่นำไปสู่การยุบพรรคการเมืองโดยศาลรัฐธรรมนูญได้
โดยเมื่อหัวหน้าพรรค และกรรมการบริหารและ ส.ส.พรรคอนาคตใหม่ได้ออกมาให้ข่าว และมีการจัดแถลงข่าวเปิดโปงขบวนการซื้องูเง่าว่ามีจริง จะต้องดำเนินการเอาผิดทางกฎหมายต่อผู้ที่มาติดต่อขอซื้อตัวโดยเร็ว ว่าเป็นใคร มาจากพรรคการเมืองใด เพื่อลบข้อครหาว่าเป็นเด็กเลี้ยงแกะ หรือแสร้งแถลงข่าวเพื่อหวังผลทางการเมืองก่อนที่จะมีการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีในวันที่ 5 มิ.ย. ที่ผ่านมาเท่านั้น
เพราะหากพรรคอนาคตใหม่ไม่ดำเนินการใด ๆ ทางกฎหมายและไม่แจ้ง กกต. ให้ดำเนินการไต่สวนสอบสวน ตามอำนาจหน้าที่ต่อไปก็อาจเข้าข่ายความผิดตามกฎหมายพรรคการเมือง และอาจมีโทษถึงขั้นที่นายทะเบียนพรรคการเมืองอาจเสนอเรื่องต่อคณะกรรมการ กกต.เพื่อพิจารณามีคําสั่งให้คณะกรรมการบริหารพรรคการเมืองนั้น พ้นจากตําแหน่งทั้งคณะ และต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 5 หมื่นบาท และให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งของผู้นั้น มีกําหนด 5 ปีด้วย
สมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย จึงได้นำความมาร้องเรียนต่อ กกต. ให้เรียก หัวหน้าพรรค-โฆษกพรรคอนาคตใหม่ และ ส.ส.พรรคอนาคตใหม่ที่แถลงข่าวต่อสื่อมวลชนเมื่อวันที่ 4 มิ.ย. ที่ผ่านมา และก่อนหน้านั้นที่ออกมาเปิดโปงว่าถูกติอต่อขอซื้อตัว มาให้ข้อเท็จจริงต่อ กกต.เพื่อเอาผิดบุคคลหรือพรรคการเมืองที่กระทำการดังกล่าว และหากสอบแล้วไม่มีมูลความจริง จะต้องเอาผิดผู้ที่ไขข่าวดังกล่าวตามกฎหมายต่อไป
อ่านเพิ่มเติม