พ.อ. ปราโมทย์ พรหมอินทร์ โฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า เปิดเผยว่า กรณีการตรวจยึดวัตถุระเบิดในพื้นที่ อ.ตากใบ จ.นราธิวาส เป็นระเบิดแสวงเครื่องแบบขว้าง จำนวน 40 ลูก และอุปกรณ์ประกอบระเบิดจำนวนหนึ่ง ดังนี้
เมื่อ 21 มิ.ย. 2561 เวลาประมาณ 11.30 น. ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวง จำนวน 3 นาย ลาดตระเวนบนทางหลวง หมายเลข 4057 ระหว่าง อ.สุไหงโก-ลก – อ.ตากใบ จ.นราธิวาส ได้ตรวจพบรถยนต์ต้องสงสัย ยี่ห้อ อีซูซุ รุ่นดีแม๊กซ์ สีบรอนซ์ทอง ทะเบียน บท 2788 ปัตตานี มีพิรุธ เมื่อพบเจ้าหน้าที่ได้ขับรถหลบหนี เจ้าหน้าที่จึงไล่ติดตามจนสามารถควบคุมรถคันดังกล่าวได้บุคคลภายในรถ จำนวน 2 คน ควบคุมตัวไว้ได้ 1 คน คือ นายซานูซี ยาแต อายุ 36 ปี อยู่บ้านเลขที่ 21/1 หมู่ 10 ต.ตันหยงมัส อ.ระแงะ จ.นราธิวาส ส่วนอีก 1 คน หลบหนีไปได้ ทราบว่าชื่อคือ นายอับดุลอาซิ สามะ อายุ 21 ปี อยู่บ้านเลขที่ 133 หมู่ 1 ต.บางขุนทอง อ.ตากใบ จ.นราธิวาส จากการตรวจค้นภายในรถ พบวัตถุระเบิดแสวงเครื่อง และอุปกรณ์ประกอบระเบิด จำนวน 7 รายการ ดังนี้
1. ระเบิดแสวงเครื่องแบบขว้าง จำนวน 40 ลูก
2. วงจรวิทยุสื่อสาร จำนวน 2 กล่อง
3. ชุดวงจรตั้งเวลา 5 นาที จำนวน 36 กล่อง
4. ชุดวงจรตั้งเวลา 10 นาที จำนวน 1 กล่อง
5. ชุดวงจรตั้งเวลา 30 นาที จำนวน 2 กล่อง
6. ระเบิดแสวงเครื่องแบบท่อเหล็ก จำนวน 1 ลูก
7. ไฟฉาย จำนวน 4 กระบอก
จากการตรวจสอบพฤติกรรมผู้ต้องสงสัยในเบื้องต้น นายซานูซี ยาแต มีส่วนเกี่ยวข้องกับการก่อเหตุสำคัญ ในพื้นที่มาแล้วหลายครั้ง เช่น เข้าร่วมโจมตีฐาน ร้อย ร.15121 (ฐานพระองค์ดำ) เมื่อ 19 ม.ค. 2554, การเข้ายึดโรงพยาบาลเจาะไอร้อง เมื่อ 13 ม.ค. 2559 และอื่นๆ อีกหลายคดี เคยถูกจับกุมดำเนินคดีในข้อหาครอบครองอาวุธปืน และถูกจำขังที่เรือนจำจังหวัดนราธิวาส เป็นเวลา 4 ปี พ้นโทษออกมา
ทั้งนี้ เมื่อปี 2558 สำหรับ นายอับดุลอาซิ สามะ ที่หลบหนีไปได้นั้น เจ้าหน้าที่กำลังติดตามจับกุม พร้อมกับขยายผลไปยังเครือข่าย ที่เกี่ยวข้อง ต่อไป ซึ่งล่าสุด เจ้าหน้าที่ได้ขยายผลตรวจค้นที่บ้านพักของ นายซานูซี ตรวจพบวัตถุต้องสงสัย เพื่อใช้ในการประกอบระเบิด จำนวน 7 รายการ และตรวจค้นบ้านพักของ นายอับดุลอาซิฯ จากการตรวจสอบ ยังไม่พบสิ่งผิดกฎหมาย สำหรับรถยนต์คันที่ใช้ขนระเบิดเป็นรถของ นายอุษมา ยาแต น้องชายของ นายซานูซีฯ ถูกควบคุมตัวกรณีมีส่วนร่วมเกี่ยวข้องกับเหตุโจมตี เจ้าหน้าที่ ร้อย ร.15121 เมื่อ 2554 และศาลตัดสินจำคุก ตลอดชีวิต
ทั้งนี้ ได้เน้นย้ำให้ทุกหน่วยได้เพิ่มความเข้มงวดในการปฏิบัติด้วยการตั้งจุดตรวจ จุดสกัด แบบไม่ประจำที่ ไม่เป็นเวลา ให้มากขึ้น เพื่อให้สามารถสกัดกั้นความพยายามในการก่อเหตุ ให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
ด้าน พ.อ.ปราโมทย์ กล่าวต่อว่า ระเบิดที่จับกุมได้นั้นจะต้องตรวจสอบว่านำมาจากประเทศเพื่อนบ้านหรือไม่ แต่การตรวจสอบพบว่า เป็นระเบิดที่เคยก่อเหตุในพื้นที่ของ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งการตรวจค้นที่บ้านผู้ต้องหาในพื้นที่ อ.ระแงะ จ.นราธิวาส พบว่า มีอุปกรณ์ในการผลิตระเบิดอยู่จำนวนมาก ขณะนี้ได้นำผู้ต้องหาไปควบคุมตัวยังศูนย์ซักถาม ทพ.46 ผู้ต้องให้การกับเจ้าหน้าที่ยังไม่ดีเท่าที่ควร
ภาพ : twitter/Nalinee
ข่าวเกี่ยวข้อง :