พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช. เปิดเผยถึงการพูดคุยกับอีลอน มัสก์ ซีอีโอเทสลา และสเปซ เอ็กซ์ ว่าเมื่อคืนนี้ได้เจอกันที่สนามบินเชียงราย ซึ่งอีลอน มัสก์ มาพร้อมกับคณะ 5คน บินตรงด้วยเครื่องบินส่วนตัวจากสหรัฐฯ มาไทย โดยมีการพูดคุยแลกเปลี่ยนถึงสิ่งที่ไทยกำลังทำ เพราะอีลอน มัสก์ มีเรื่องเทคโนโลยี และเขายอมรับไม่เคยเห็นถ้ำในลักษณะนี้ และเอาเรือดำน้ำจิ๋ว ที่จะนำมาช่วยทีมหมูป่า ให้ตนดู และไปดูสถานที่จริง เดินลุยไปถึงห้องโถง โดยเชื่อว่าอีลอน มัสก์ จะคิดค้นผลิตภัณฑ์ใหม่ หลังเห็นสถานที่จริง ภายในถ้ำหลวงขุนน้ำนางนอน
พล.อ.ประยุทธ์ ระบุว่า ตนได้ฝากให้ศึกษาเครื่องมือป้องกันภัย สำหรับอาเซียน เพราะมีลักษณะภูมิศาสตร์คล้ายกัน และไทยพร้อมสนับสนุนการลงทุน ในพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษ (อีอีซี) และนวัตกรรมดิจิตอล ซึ่งอีลอน มัสก์ รับปากหากเดินทางไปจีน จะเดินทางกลับมายังไทย และมอบเรือดำน้ำจิ๋วให้ไทยไว้ศึกษา เพราะสามารถดัดแปลงใช้ได้ในอนาคต ซึ่งจะเป็นประโยชน์มากสำหรับประเทศไทย ซึ่งอาจจะมีภัยพิบัติอื่นๆ ก็สามารถนำมาใช้ได้ พร้อมกันนี้ ตนยังรับอีลอน มัสก์ เป็นเพื่อนและให้ถือประเทศไทยเป็นบ้านหลังที่ 2 ของอีลอน มัสก์ อะไรที่ดูแลได้จะดูแล เพราะไทยกำลังสร้างดาวเทียมจะทำให้ไทยได้ประโยชน์ร่วมกัน และยังเห็นความจริงของอีลอน มัสก์ ที่โพต์ข้อความเสนอตัวเข้ามาช่วย หากไทยมีความต้องการ แต่เชื่อมั่นว่าไทย จะสามารถดำเนินการได้
ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี คาดหวังให้วันนี้ภารกิจนำทีมหมูป่าและหน่วยซีล 9 คน ออกมา ให้ประสบความสำเร็จ โดยคาดว่าวันนี้จะใช้เวลา ประมาณ 6 ชั่วโมง เพราะโชคดีที่น้ำลด และเปิดเผยถึงการลงพื้นที่วานนี้ (9 ก.ค.)ว่า พูดคุยกับเด็ก 4คน ที่ถูกนำตัวออกมาวันแรก สามารถพูดคุยโต้ตอบได้ปกติ มีสติดี ยืนยันไม่ได้วางยาสลบเด็กในการลำเลียง แต่ให้ยาคลายเครียดเพื่อให้เด็กผ่อนคลาย และได้อวยพรขอให้เป็นนักฟุตบอลทีมชาติและเป็นคนดีของสังคม
พล.อ.ประยุทธ์ ระบุว่า ได้ให้กำลังใจนักดำน้ำ ที่มาช่วยภารกิจ ทั้งหมด 47 คน จากหลายประเทศ ซึ่งได้ทำหนังสือขอบคุณในนามนายกรัฐมนตรี ผ่านกระทรวงการต่างประเทศ และทำประกาศนียบัตร มอบให้เป็นรายบุคคล และเมื่อภารกิจแล้วเสร็จ ให้กระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา พานักดำน้ำไปท่องเที่ยวในสถานที่ ที่อยากไป และภารกิจครั้งนี้ ต่างชาติทุกประเทศทั่วโลก ชื่นชมความสำเร็จถือเป็นความภาคภูมิใจ ในการแก้ปัญหาในแบบบูรณาการ ที่นายกรัฐมนตรีเป็นประธาน โดยไม่ต้องไปสั่งการในพื้นที่ สามารถสั่งการพื้นที่ ที่เกี่ยวข้อง ดำเนินการได้ภายใต้ศูนย์อำนวยการร่วม
และภารกิจครั้งนี้ ยังทำให้ต่างชาติเรียนรู้ เพราะถ้ำมีความแตกต่างจากต่างประเทศ ที่มีขนาดใหญ่เป็นทางระบายจากภูเขาด้านบน ซึ่งต่างฝ่ายต่างเรียนรู้ แลกเปลี่ยน และผู้ปฏิบัติงานยังชื่นชมนักดำน้ำไทยที่มีประสิทธิ์ภาพและชีลที่เข้มแข็ง เป็นการทำงานร่วมกัน ขออย่าให้ใครพบเด็กก่อน เพราะเป็นภารกิจร่วมกัน ไม่มีใครเก่งกว่าใคร และต่างชาติก็ยอมรับได้
อย่างไรก็ตาม หลังสิ้นเสร็จภารกิจนี้แล้ว ได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องและท้องถิ่นหามาตราการในการป้องกันเข้า-ออก ติดตั้งระบบไฟฟ้า ระบบเตือนภัย มีบันใด มีทางน้ำ เพื่อรองรับนักท่องเที่ยว เพราะจะเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญ
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง