พล.อ.ธารไชยยันต์ ศรีสุวรรณ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด ระบุถึงความสัมพันธ์ทางกองทัพไทยและกองทัพสหรัฐอเมริการะหว่างร่วมพิธีเปิดการฝึกคอบร้าโกลด์ 2018 ครั้งที่ 37 โดยระบุว่า อย่ามองการปรับจำนวนการส่งกำลังพลเข้าร่วมเกี่ยวกับเรื่องการเมือง เป็นเพียงวงรอบของหน่วยที่ต้องเข้าร่วม อาจติดภารกิจที่ตะวันออกกลาง ซึ่งบางทีการตั้งข้อสังเกตถึงเรื่องจำนวน อาจจะใช่หรือไม่ใช่ก็ได้
ในส่วนความสัมพันธ์ทางการทหารกับกองทัพเมียนมานั้น ผบ.สส.ยืนยันว่าไม่มีการถูกกดดันให้ลดบทบาทกองทัพเมียนมาในการเข้าร่วมฝึกกองกำลังผสม ซึ่งในปีนี้ได้เชิญทางเมียนมาเป็นผู้ร่วมสังเกตการณ์พิเศษ ตามกรอบความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ และทางเมียนมามีความประสงค์ที่จะเข้ามาดูระบบการฝึก ซึ่งกองทัพไทยยินดีพร้อมแลกเปลี่ยนซึ่งกันและกัน
ขณะที่ นายกลิน ที เดวีส์ เอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย ระบุว่า การฝึกคอบร้าโกลด์ มีความสำคัญต่อประเทศสหรัฐฯ มาก เพราะเป็นการเปิดโอกาสให้สหรัฐฯเข้ามาฝึกร่วมกับประเทศไทย ซึ่งเป็นประเทศพันธมิตร อีกทั้งการฝึกครั้งนี้เป็นงานครบรอบ 200 ปีของการสถาปนาทางการทูตอย่างเป็นทางการระหว่างประเทศไทยและสหรัฐอเมริกา ซึ่งตนรู้สึกประทับใจกับงานคอบร้าโกลด์ในครั้งนี้เป็นอย่างมาก
สำหรับ ปีนี้มีจำนวนผู้เข้ารับการฝึกรวม 11,075 คน และมีประเทศร่วมสังเกตการณ์ฝึกจำนวน 10 ประเทศ รวมถึงประเทศเมียนมา ในส่วนหลักสูตรการฝึกนอกเหนือจากการฝึกยุทธสะเทินน้ำสะเทินบกที่เป็นไฮไลท์ ยังเพิ่มการฝึกช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมและการบรรเทาสาธารณภัย การฝึกต่อต้านก่อการร้ายสากล และการฝึกกวาดล้างและทำลายทุ่นระเบิด
ข่าวที่เกี่ยวข้อง