นางเชค ฮาสินา นายกรัฐมนตรีบังกลาเทศกับนางอองซาน ซูจี มุขมนตรีแห่งรัฐของเมียนมา มีกำหนดการลงนาม MOU ให้เมียนมาเริ่มต้นกระบวนการรับผู้ลี้ภัยที่หนีเข้าไปในบังกลาเทศกลับประเทศ โดยกระทรวงมหาดไทยของบังกลาเทศเปิดเผยว่า มีการร่าง MOU เสร็จแล้ว หลังทั้งสองประเทศหารือกันจนได้ข้อสรุปร่วมกันแล้ว แต่ไม่มีการเปิดเผยเนื้อหาของ MOU ฉบับนี้
ก่อนหน้านี้ นางซูจีเคยประกาศว่า เมียนมาพร้อมจะรับพลเมืองเมียนมากลับประเทศ และผู้ลี้ภัยในบังกลาเทศขณะนี้ สามารถกลับประเทศได้ เมื่อผ่านกระบวนการพิสูจน์สัญชาติแล้ว แต่ที่ผ่านมา เมียนมาไม่เคยยอมรับชาวโรฮิงญาว่าเป็นพลเมืองของเมียนมา พร้อมเรียกชาวโรฮิงญาว่า เป็นชาวเบงกาลี หรือผู้ลี้ภัยชาวบังกลาเทศ
ด้านนายเร็กซ์ ทิลเลอร์สัน รัฐมนตรีต่างประเทศของสหรัฐฯ แถลงว่ารัฐบาลเมียนมากำลังลบล้างเผ่าพันธุ์ชาวโรฮิงญา พร้อมเตือนกองทัพเมียนมาว่า สหรัฐฯ อาจคว่ำบาตรผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการปราบปรามชาวโรฮิงญา ซึ่งเขามองว่าเป็นการกระทำที่โหดร้ายป่าเถื่อน ถือเป็นการปรับจุดยืนของสหรัฐฯ เกี่ยวกับความรุนแรงในยะไข่ หลังจากที่ผ่านมา เขาเพียงแสดงความกังวลต่อการละเมิดสิทธิมนุษยชน และปฏิเสธการใช้คำว่า "ลบล้างเผ่าพันธุ์" โดยระบุว่า ต้องตรวจสอบก่อนว่าการกระทำของกองทัพเมียนมาเข้าเกณฑ์การลบล้างเผ่าพันธุ์หรือไม่
หลังมีแถลงการณ์ของนายทิลเลอร์สัน สถานทูตสหรัฐฯ ประจำเมียนมาก็เกรงว่า การปรับท่าทีครั้งนี้จะกระทบกับความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่ จึงมีคำสั่งระงับไม่ให้เจ้าหน้าที่เดินทางเยือนพื้นที่ในรัฐยะไข่ไปจนถึงวัน ที่ 4 ธันวาคม และเตือนพลเมืองอเมริกันให้หลีกเลี่ยงการเดินทางไปรัฐยะไข่ด้วย
