นายชวน หลีกภัย อดีตนายกรัฐมนตรี และประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) ว่า เชื่อว่าคนส่วนใหญ่ที่กู้ยืม มีพื้นฐานจิตใจเป็นคนปกติไม่คิดในทางร้าย แต่อาจเกิดความเข้าใจไม่ถูกต้อง จากคำแนะนำที่ผิด เช่น เคยมีคนที่เคยช่วยตนทำงานมาขอบคุณบอกว่าลูกของเขาจบการศึกษาแล้ว ได้ทุนกู้ยืมจากนโยบายดังกล่าวสมัยรัฐบาลประชาธิปัตย์ที่ตนเคยทำไว้ ตนจึงสอบถามว่าได้คืนเงินหรือยัง เขาบอกว่ายังไม่ได้คืน ตนก็ถามอีกว่าทำไม เขาบอกว่าอาจารย์ที่มหาวิทยาลัยเอกชนแห่งหนึ่งที่ลูกเขาเรียนจบมาแนะนำแบบนั้น ก็เป็นการบอกให้เชื่อแบบผิดๆ
เรื่องนี้ตนเห็นว่าเรื่องของการศึกษาเป็นการสร้างคนดีสร้างคนให้มีความรู้ เพราะฉะนั้นการไม่คืนเงินถือว่าวัตถุประสงค์ในการสร้างคนล้มเหลว ทั้งนี้ คนที่ไม่มีเงินและไม่มีงานทำนั้นน่าเห็นใจ ต้องหาทางเจรจาช่วยเหลือ แต่สำหรับคนที่จบแล้วมีงานทำ แต่กลับไม่คืนถือว่าผิดปกติมาก ตนไม่คิดว่าพื้นฐานทั่วไปของคนไทยจะเป็นแบบนี้ แต่อาจเกิดจากการเข้าใจผิด เพราะมีการแนะนำในทางที่ผิดจากอาจารย์ อย่างไรก็ตามเชื่อว่าคนส่วนใหญ่ที่กู้ยืมเงิน มีพื้นฐานเป็นคนธรรมดาเหมือนคนไทยทั่วไป คือ มีพื้นฐานความคิดที่สุจริตไม่คิดที่จะโกง
"พอดีได้เห็นตัวอย่างของจริง คนที่ทำงานใกล้ชิดผม ลูกเขาเรียนจบก็เล่าให้ฟังว่าจบจากมหาวิทยาลัยเอกชน ถ้าเอ่ยชื่อไปก็จะตกใจเลย มหาวิทยาลัยพวกนี้ได้ประโยชน์จากเงินที่กู้ยืม เพื่อให้เด็กได้เข้าเรียนมหาวิทยาลัยตัวเอง แสดงว่าสถาบันการศึกษาบางแห่งเป็นการชี้นำในทางที่ผิด ถ้าสอนคนเหล่านี้ ถึงจะจบปริญญาตรี โทหรือเอกก็ตาม แต่ถ้าพื้นฐานไม่สุจริต คิดไม่คืนเงินตั้งแต่ต้นก็คือว่าล้มเหลวสถาบันแห่งนั้นล้มเหลวในการให้ความรู้การศึกษา ก็ไม่ควรสนับสนุนให้คนไปเรียนสถาบันแห่งนั้น" นายชวน กล่าว
ดังนั้น จึงต้องช่วยกันรณรงค์ในเรื่องนี้ และจะติดต่อไปยังสถาบันการศึกษาแต่ละมหาวิทยาลัย โดยจะทำหนังสือไปด้วยตัวเอง ถึงผู้บริหารของมหาวิทยาลัยนั้นๆให้ช่วยบอกนักศึกษาที่กู้ยืมเรียนในสถาบันแต่ละแห่ง ที่จบออกไปแล้วให้ช่วยคืนเงิน
อย่างไรก็ตาม ตนได้ทำหนังสือไปแล้ว2 แห่ง คือ มหาวิทยาลัยสวนดุสิต ศูนย์จังหวัดตรัง และในระหว่างการประถมนิเทศเด็กใหม่ที่ มหาวิทยาลัย สงขลานครินทร์ วิทยาเขตตรัง ซึ่งตนไปบรรยายก็ให้อาจารย์แจ้งบรรดาศิษย์เก่าที่จบไปแล้วให้คืนเงินด้วย ทั้งนี้ สถาบันการศึกษาที่ใดก็ตามที่เป็นหนี้น้อยที่สุดและเด็กคืนเงินมากที่สุด ก็ควรจะยกย่องเพราะสอนให้ เป็นคนดี
"ถ้าสถาบันไหนยุให้เด็กไม่คืนเงิน ก็ไม่ควรสนับสนุนให้เรียนสถาบันแห่งนั้น เพราะสอนให้เป็นคนไม่ดี สอนให้คนโกงตั้งแต่ต้น ต้องถือว่าสถาบันแห่งนั้นล้มเหลวในการศึกษา ความจริงแล้วมหาวิทยาลัยทุกแห่งที่ดำเนินโครงการนี้ เพื่อเป็นการกระจายโอกาส ให้กับคนที่มีฐานะลำบากความจริงๆ สมัยที่ผมเป็นนักศึกษามาเรียนในกทม. ไม่มีเงินให้กู้ยืมเรื่องการศึกษาผมเลยต้องดิ้นรนหาวัดอยู่ ไม่รู้จักใครไม่มีญาติพี่น้อง มีทางเดียวคือหาวัดอยู่ถ้ามีเงินกองทุนกู้ยืมก็คงไม่ลำบากคนจำนวนมากก็เช่นกัน เมื่อมาเป็นนายกรัฐมนตรีจึงเห็นความสำคัญของเรื่องทุนการศึกษาจึงได้ดำเนินการช่วยคนรุ่นหลังๆ" นายชวน กล่าว
พร้อมระบุว่า รัฐมนตรีคลังในสมัยนั้นคือ นายธารินทร์ นิมมานเหมินท์ ให้การสนับสนุนเพราะเห็นว่า สถานการณ์การเงินของประเทศตอนนั้นไปได้จึงตั้งกองทุนนี้ขึ้นมา เช่นเดียวกับเรื่องโครงการนมโรงเรียน ซึ่งนโยบายกระจายโอกาสนี้เกิดขึ้นพร้อมกันสมัยพรรคประชาธิปัตย์เป็นรัฐบาล นายชวน หลีกภัย เป็นนายกรัฐมนตรีครั้งแรก คือ การให้เด็กได้ดื่มนมในโครงการโรงเรียน ตั้งแต่อนุบาลถึงประถม และเบี้ยผู้สูงอายุได้เริ่มขึ้นในปีนั้นพร้อมกัน รวมทั้งกองทุนกู้ยืม ซึ่งเป็นการกระจายโอกาสไปยังคนที่มีฐานะเสียเปรียบ
"ทุกนโยบายที่กล่าวมานั้น ในขณะนี้ก็ยังคงอยู่ ไม่มีรัฐบาลไหนเลิกโครงการเพราะฉะนั้นประชาชนต้องร่วมมือให้ลูกหลานให้ลูกหลานได้เรียนหนังสือต่อไป เพราะการศึกษาเป็นการสร้างคนที่แท้จริงไม่ว่าเรียนจบชั้นไหนก็ตาม ให้เป็นคนดีปัญหาของคุณภาพคนดี ความรู้เป็นส่วนสำคัญแต่ไม่เท่ากับความเป็นคนดี ไม่ว่าจะจลในระดับไหนก็ตามถ้าเป็นคนไม่ดี เจตนาไม่สุจริตแม้กระทั่งหนี้กองทุนฯไม่คืน อย่างนี้ถือว่าไม่ประสบความสำเร็จ เพราะฉะนั้นสถาบันใดก็ตามที่ผลิตคนออกมาแล้วไม่รับผิดชอบ ก็ไม่คววรสนับสนุนให้เรียน"
อ่านเพิ่มเติม