อัยการญี่ปุ่นตั้งข้อหากระทำผิดกฎหมายมาตรการทางการเงินและการแลกเปลี่ยนเงินตรา แก่นายการ์โลส โกส์น อดีตประธานกลุ่มยานยนต์เรโนลต์ นิสสัน มิตซูบิชิ รวมถึงนายเกร็ก เคลลี ผู้ช่วยคนสนิทของนายโกส์น และบริษัทนิสสัน เนื่องจากให้ข้อมูลที่ไม่ถูกต้องในรายงานประจำปีต่อตลาดหลักทรัพย์

นอกจากนี้ สื่อท้องถิ่นกล่าวว่า นายโกส์นอาจถูกจับกุมอีกครั้งในข้อหาอื่น ซึ่งจะทำให้เขาถูกควบคุมตัวเพื่อสอบปากคำต่ออีก 20 วัน

เมื่อเดือนพ.ย.ที่ผ่านมา นายโกส์นถูกจับกุม หลังจากถูกกล่าวหาว่าเขาระบุรายได้ของตัวเองในรายงานงบการเงินประจำปี 2010 -2015 ของนิสสันต่ำกว่าความเป็นจริงครึ่งหนึ่ง จาก 10,000 ล้านเยน (2,917 ล้านบาท) เป็น 5,000 ล้านเยน (1,458 ล้านบาท) ต่อปี ซึ่งสันนิษฐานว่าเขาน่าจะมีรายได้ในช่วงนี้มากกว่าที่เขียนในรายงานประมาณ 9,000 ล้านเยน (2,625 ล้านบาท) และเขายังถูกกล่าวหาว่านำทรัพย์สินบริษัทไปใช้ส่วนตัวอีกด้วย แต่นายโกส์นปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา

หลังนายโกส์นถูกจับกุม บริษัทนิสสันและมิตซูบิชิได้ปลดนายโกส์นออกจากตำแหน่งประธานบริษัท ส่วนเรโนลด์กล่าวว่านายโกส์นจะยังเป็นประธานบริษัทต่อไป โดยมีคนมารักษาการแทน

นายโกส์น วัย 64 ปีเคยเป็นวิศวกรของกลุ่มยานยนต์เรโนลต์ นิสสัน ก่อนจะนำมิตซูบิชิมาเข้าร่วมในปี 2016 นายโกส์นเคยได้รับการยกย่องเป็นวีรบุรุษในญี่ปุ่นที่สามารถทำให้สถานะบริษัทนิสสันที่กำลังย่ำแย่ให้ฟื้นขึ้นมาได้

ที่มา : Japan Times, BBC