ที่ศาลเจ้าพ่อหลักเมืองขอนแก่น นายพานทองแท้ ชินวัตร บุตชายของ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี นำผู้สมัครลงรับการเลือกตั้ง ส.ส.ทั้ง 10 เขตเลือกตั้งของ จ.ขอนแก่น ไหว้ขอพรศาลเจ้าพ่อหลักเมืองและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ โดยรอบพื้นที่ศาลหลักเมืองขอนแก่นเพื่อความเป็นสิริมงคล ก่อนนำพาผู้สมัครทุกคนเดินทางมาลงทะเบียนและลงเวลาการสมัครรับการเลือกตั้ง ส.ส. ซึ่ง กกต.ขอนแก่น ได้กำหนดเลือก หอประชุม อบจ.ขอนแก่น เป็นสถานที่ของการรับสมัครเลือกตั้ง ส.ส.ในช่วงระหว่างวันที่ 4-8 ก.พ.
ขณะที่ นายเอกราช ช่างเหลา แกนนำพรรคพลังประชารัฐภาคอีสาน นำผู้สมัคร ส.ส.ของพรรคพลังประชารัฐ ทั้ง 10 เขตเลือกตั้งของ จ.ขอนแก่น กราบขอพรศาลเจ้าพ่อหลักเมืองและสิ่งศักดิ์สิทธิ์เพื่อขอพรเอาฤกษ์เอาชัยก่อนนำผู้สมัครทั้ง 10 คนขึ้นรถตุ๊กๆ และเคลื่อนขบวนมายังสถานที่รับสมัครเลือกตั้ง ท่ามกลางความสนใจจากประชาชนและผู้ที่ให้การสนับสนุนที่มาให้กำลังใจจนแน่น 2 ฟากฝั่งถนนและบริเวณโดยรอบสถานที่ขอการรับสมัครเป็นจำนวนมาก
ด้านนายประจักษ์ แกล้วกล้าหาญ สังกัดพรรคชาติไทยพัฒนา นำผู้สมัคร ส.ส.ของพรรคชาติไทยพัฒนาทั้ง 10 เขตเลือกตั้ง กราบขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์และพบปะประชาชนภายในเขตเทศบาลนครขอนแก่น ก่อนพากันมารายงานตัวและลงทะเบียนเพื่อลงสมัครรับการเลือกตั้ง ที่ หอประชุม อบจ.ขอนแก่น เช่นกัน นอกจากนี้ยังคงมีผู้สมัคร ส.ส.จากพรรคอนาคตใหม่ ,พรรคพลังท้องถิ่นไทย,พรรคประชาชาติ,พรรคเพื่อไทย,พรรคภูมิใจไทย,พรรคชาติพัฒนา,พรรคพลังธรรมใหม่,พรรคประชาธิปัตย์,พรรคเพื่อนไทย รวมไปถึงจากพรรคการเมืองต่างๆทยอยกันมาลงทะเบียนและรายงานตัวเพื่อรับทราบถึงกฎระเบียบและขั้นตอนการดำเนินงานของการสมัครรับการเลือกตั้งตามที่ กกต.กำหนด
ทั้งนี้บรรยากาศโดยทั่วไปที่หอประชุม อบจ.ขอนแก่น สถานที่ที่ กกต.ใช้เป็นสถานที่ของการรับสมัครเลือกตั้ง ส.ส.ระหว่างวันที่ 4-8 ก.พ. นายอภินันท์ จันอุปละ ผอ.กกต.ขอนแก่น ได้ทำการประกาศแจ้งเตือนถึงกฎระเบียบและข้อบังคับต่างๆเพื่อให้ผู้สมัครได้เข้าใจและรับทราบถึงลำดับขั้นตอนต่างๆ โดยเฉพาะกับการห้ามไม่ให้ผู้ที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องเข้ามาภายในบริเวณพื้นที่ของการรับสมัครโดยเด็ดขาด โดยให้ผู้สมัครทุกนคั้นหลังจากที่ได้มีการายงานตัวและลงทะเบียนต่อเจ้าหน้าที่แล้ว ให้อยู่ในจุดพักรอ บริเวณด้านหน้า เพื่อรอให้ถึงเวลา 08.30 น.จึงจะเปิดประตูให้ผู้สมัครที่ทำการลงทะเบียนไว้แล้วนั้นเข้ายื่นเอกสารและดำเนินการตามขั้นตอนของการรับสมัคร โดยให้ผู้ที่ให้การสนับสนุนและผู้สังเกตุการณ์นั้นอยู่บริเวณด้านนอกห้องประชุม ท่ามกลางการรักษาความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่ตำรวจและฝ่ายสืบสวนสอบสวนของ กกต. เพื่อให้การดำเนินงานตามขั้นตอนต่างๆตามที่ กกต.กำหนดไว้นั้นเป็นไปด้วยความเรียบร้อย
นายอภินันท์ จันอุปละ ผอ.กกต.ขอนแก่น กล่าวว่า ยังคงเน้นย้ำแนวทางการปฎิบัติที่ทุกคนจะต้องปฎิบัติตามกฎหมายและระเบียบของ กกต.อย่างเคร่งครัด ทั้งนี้ทุกขั้นตอนจะมี ผอ.ประจำเขตเลือกตั้ง ทั้ง 10 เขตเลือกตั้ง นั้นคอยกำกับควบคุมและจัดการการรับสมัครเลือกตั้งให้เป็นไปตามขั้นตอนตามที่ กกต.กำหนด โดยเฉพาะกับ มาตรา 73 ในเรื่อของมหรสพที่ผ้สมัครทุกคนนั้นต้องปฎิบัติอย่างเคร่งครัด เพราะหากกระทำความผิดก็จะถูกดำเนินการตามขั้นตอนของกฏหมายทันที
“เชื่อได้ว่าผู้สมัครทุกคนนั้นมีการศึกษาข้อมูลและรายละเอียดข้อระเบียบบังคับและข้อกฎหมายต่างๆในการเลือกตั้งในครั้งนี้ครบถ้วนทั้งหมดแล้ว แต่เพื่อให้รัดกุมและให้การดำเนินการในด้านต่างๆที่เป็นไปตามขั้นตอน กกต.ทุกฝ่ายจึงต้องแนะนำชี้แจงในรายละเอียด โดยเฉพาะกับผู้สมัครหน้าใหม่ที่ไม่เคยลงสมัครรับการเลือกตั้ง ที่อาจจะเตรียมเอกสารไม่ครบ หรือการดำเนินการตามขั้นตอนอาจจ่าช้าหรือไม่ครบถ้วน ดังนั้นเมื่อผู้สมัคร ทุกคนได้ทำการลงทะเบียน ที่ กกต. ได้กำหนดไว้เป็น 2 ส่วนคือส่วนแรกคือเขตเลือกตั้งที่ 1-5 และ ส่วนที่ 2 คือเขตเลือกตั้งที่ 6-10 ซึ่งเมื่อลงทะเบียนและรายงานตัวแล้ว เจ้าหน้าที่ กกต. จะชี้แจงรายละเอียดขั้นตอนและในเวลา 08.30 น. ซึ่งถึงเวลาของการเปิดรับสมัคร กกต.ก็จะเชิญผู้สมัครทุกคนที่ทำการลงทะเบียนไวนั้นเข้าสู่ขั้นตอนของการสมัครจนแล้วเสร็จทุกคน”
ส่วนวานนี้ (3ก.พ.62) นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ว่าที่ผู้ถูกเสนอชื่อชิงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทย และนายประเสริฐ จันทรรวงทอง ประธาน ส.ส.พรรคเพื่อไทย จ.นครราชสีมา นำทีมว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. ทั้ง 14 เขต ร่วมบวงสรวงอนุสาวรย์ท้ายสุรนารี เพื่อความเป็นศิริมงคล เอาฤกษ์เอาชัย และสร้างขวัญกำลังใจให้กับผู้สมัครและผู้สนับสนุนพรรคเพื่อไทย โดยมีประชาชนในจังหวัดให้การต้อนรับเป็นอย่างดี
นายชัชชาติ ระบุว่า จากการลงพื้นที่พบปะประชาชนทั้ง 14 เขต พบว่า ประเด็นสำคัญที่พี่น้องประชาชนต้องการให้แก้ไขมากที่สุด คือ เรื่องปากท้อง, ราคาพืชผลทางการเกษตรตกต่ำ, และความเป็นอยู่ โดยยืนยันว่าพรรคเพื่อไทยมีแผนงานที่จะดำเนินการแก้ไขในเรื่องเหล่านี้ นอกจากนี้ยังมียุทธศาสตร์ไทยเชื่อมไทย ที่จะทำให้จ.นครราชสีมาเกิดการเชื่อมต่อด้านการคมนาคมขนส่ง, การค้า, และชลประทาน
นายชัชชาติ มั่นใจว่า พรรคเพื่อไทยจะสามารถกวาดที่นั่ง ส.ส.ได้ทั้งจังหวัด 14 ที่นั่ง เพราะประชาชนให้การสนับสนุนอย่างดี ซึ่งไม่มีกังวลใจว่าพื้นที่จ.นครราชสีมาจะเคยเป็นฐานเสียงของพรรคชาติพัฒนา หรือแม้แต่อดีตส.ส.จากพรรคเพื่อไทยเมื่อปี 2554 จะย้ายไปซบพรรคพลังประชารัฐ รวมถึงกกต.ลดเขตเลือกตั้งจาก 15 เหลือ 14 เขตก็ตาม ซึ่งขณะนี้พรรคฯยังคงมุ่งเป้าไปที่ ส.ส.แบบแบ่งเขตเป็นหลัก
"ผมคิดว่าเอาทุกเขตเลยครับ ตอนนี้เราเน้นเขตเป็นหลัก ขอให้ยกเเถอะ ส่วนปาร์ตี้ลิสต์กฏหมายใหม่วิธีคำนวนวุ่นวายหน่อย ตอนนี้เรายังไม่ได้เน้นปาร์ตี้ลิสต์มาก แต่ว่าเราขอยกทั้ง 14 เขต ก็พยายาม เชื่อว่าผลงานที่ผ่านมาเราทำได้จริง และยึดโยงประชาชนเป็นหลัก" นายชัชชาติกล่าว
ส่วนประเด็นที่พรรคพลังประชารัฐได้ทาบทามพลเอกประยุทธ์ จันโอชา นายกรัฐมนตรี เขามาอยู่ในปาร์ตี้ลิสต์ลำดับที่ 1 ไม่กังวลใจเช่นกัน มองว่าเป็นเรื่องดีที่ประชาชนจะมีสิทธิตัดสินใจมากขึ้น เพียงแต่ขอให้ทุกฝ่ายอยู่ในกรอบกติกา โดยสุจริต ซึ่งส่วนตัวไม่กลัวอำนาจรัฐในการหาเสียง เพราะเชื่อว่าที่ผ่านมาประชาชนต่างเห็นผลงานรัฐบาลเพื่อไทยมาตั้งแต่พรรคไทยรักไทย และประชาชนในยุคนี้ไม่ชอบความอยุติธรรมอยู่แล้ว ซึ่งหากมีการดิสเครดิตฝ่ายตรงข้ามอาจจะกลายเป็นกระแสลบกับพรรคดังกล่าว
โดยในวันนี้ (4ก.พ.) เวลา 07.00 น. นายชัยชาติ จะนำทีมว่าที่ผู้สมัครทั้งหมดด้วยตัวเองไปยังสนามกีฬาเฉลิมพระเกียรติ 8 พรรษาเพื่อลงรับสมัครเลือกตั้งทั้ง 14 เขต ทั้งนี้นายชัชชาติได้กำชับว่าที่ผู้สมัครทั้งหมดให้ปฏิบัติตามกฏระเบียบอย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะหลังจากการได้หมายเลขสมัครรับเลือกตั้งแล้ว