นายแพทย์ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า กระทรวงสาธารณสุข โดยสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา หรือ อย. ได้เพิ่มประสิทธิภาพระบบการเฝ้าระวัง ติดตามตรวจสอบผลิตภัณฑ์สุขภาพ ทั้งผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร เครื่องสำอาง ที่จำหน่ายในท้องตลาดและผ่านทางสื่อต่าง ๆ อย่างเข้มงวด เพื่อคุ้มครองความปลอดภัยให้แก่ผู้บริโภค
อย่างไรก็ตาม หากประชาชนรับประทานอาหารหลากหลาย ครบทุกหมู่ ก็ไม่จำเป็นต้องได้รับผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร แต่หากคิดจะเลือกซื้อผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ขอให้พิจารณาว่ามีความจำเป็น มีประโยชน์ มีความปลอดภัยหรือไม่ เพราะผลิตภัณฑ์เสริมอาหารคืออาหาร ไม่ใช่ยา ไม่สามารถรักษาโรคได้ และหากผลิตภัณฑ์ไม่ได้มาตรฐาน มีการใส่สารต้องห้าม การปนเปื้อนโลหะหนัก อาจเกิดอันตรายต่อหัวใจ ตับ ไต
สำหรับในการเลือกซื้อผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ควรเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ที่แสดงฉลากถูกต้อง มีเลขสารบบอาหาร และอ่านฉลากข้างบรรจุภัณฑ์อย่างถี่ถ้วน ไม่ควรเชื่อข้อมูลโฆษณาที่นอกเหนือจากที่ระบุในฉลาก และต้องรู้ว่ามีข้อห้าม ข้อระมัดระวังเป็นพิเศษกับโรคประจำตัวที่เป็นอยู่หรือไม่ และขอให้แจ้งผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่ใช้กับแพทย์ที่รักษาประจำ
ส่วนเครื่องสำอาง ขอให้ซื้อจากร้านที่มีหลักแหล่งแน่นอน เชื่อถือได้ มีฉลากภาษาไทย บ่งสาระสำคัญครบถ้วน โดยเฉพาะอย่างยิ่งต้องมีใบจดแจ้งเป็นเลข 10 หลัก วันเดือนปีที่ผลิต วิธีใช้ เป็นต้น ควรใช้เครื่องสำอางตามข้อแนะนำบนฉลาก และควรทดสอบการแพ้เมื่อใช้เครื่องสำอางชนิดนั้นเป็นครั้งแรก โดยทาที่ท้องแขนทิ้งไว้ 24 – 48 ชั่วโมง หากมีความผิดปกติต้องหยุดใช้ทันที ไม่ใช้เครื่องสำอางร่วมกับผู้อื่นหรือทดลองใช้เครื่องสำอางตัวอย่างตามร้านค้า เพราะอาจมีการแพร่กระจายของเชื้อโรค
"ขอย้ำเตือนประชาชน อ่านข้อมูลของผลิตภัณฑ์จากฉลากที่ได้รับอนุญาต ไม่หลงเชื่อข้อมูลจากการโฆษณาที่โอ้อวดสรรพคุณเกินจริง" นพ.ธเรศ กล่าว
ทั้งนี้ ประชาชนสามารถตรวจสอบเลขสารบบอาหารของผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร และเลขใบจดแจ้งผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางได้ทางเว็บไซต์ อย. www.fda.moph.go.th หรือที่ Oryor Smart Application และหากได้รับอันตรายหรือพบการโฆษณาผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่อวดอ้างสรรพคุณเกินจริงทางสื่อต่าง ๆ โดยเฉพาะทาง Social Media สามารถแจ้งร้องเรียนได้ที่สายด่วน อย. 1556 หรือที่ E-mail: [email protected] หรือตู้ ปณ. 1556 ปณฝ. กระทรวงสาธารณสุข จ.นนทบุรี 11004 หรือร้องเรียนผ่าน Oryor Smart Application หรือสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดทุกจังหวัด เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายกับผู้กระทำผิดอย่างเคร่งครัด
ภาพจาก Photo by JOSHUA COLEMAN on Unsplash
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :