นางสาวชุติมา บุณยประภัศร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวถึง พันธุ์ข้าวกข 43 ซึ่งผ่านการวิจัยโดยกรมการข้าวกับคณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล และสามารถทดลองปลูก เพื่อการจำหน่ายและการบริโภคได้แล้ว ว่าข้าวพันธุ์ดังกล่าวมีลักษณะใกล้เคียงกับข้าวขาว แต่มีความนุ่มและมีคุณสมบัติให้น้ำตาลต่ำ เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการควบคุมน้ำหนักและผู้ป่วยโรคเบาหวาน โรคไต จึงถือเป็นข้าวคุณภาพและมีราคาสูงกว่าข้าวขาวปกติ

ภาพโดย กรมการข้าว

"เรามั่นใจว่ามีความต้องการของผู้บริโภคแน่ๆ ขณะเดียวกันก็เป็นกังวล เนื่องจาก ข้าว กข 43 เป็นข้าวขาวนิ่ม พอเป็นที่นิยมแล้ว ผู้บริโภคอาจจะไม่ทราบ อาจมีการนำข้าวขาวทั่วไปปลอมปน ขายเป็นข้าว กข 43 ซึ่งของจริงราคาแพงกว่า เพราะผลิตได้ไม่มาก" นางสาวชุติมา

ทั้งนี้ โดยกรมการข้าวได้ออกเครื่องหมายรับรองข้าวพันธุ์แท้ให้เป็นสัญลักษณ์ เพื่อเป็นหลักประกันแก่ผู้บริโภค โดยขณะนี้ต้องการให้ผู้ที่สนใจจะนำข้าว กข43 ไปจำหน่ายให้ยื่นเสนอมายังกรมการค้าต่างประเทศ เพื่อให้ได้ทราบปริมาณความต้องการที่ชัดเจนก่อนจะมีการขยายพื้นที่การผลิต

ทั้งนี้ ข้าวพันธุ์ดังกล่าว สามารถปลูกได้ในที่นาภาคกลางเท่านั้น โดยล่าสุดมีพื้นที่การเพาะปลูกและมีผลผลิตอยู่ที่ 3,000 ไร่ ผลผลิต 600 ตัน และพร้อมที่จะขยายพื้นที่ได้สูงสุดถึง 300,000 ไร่ หากมีความต้องการเพิ่มมากขึ้น

อย่างไรก็ตาม เครื่องหมายรับรองพันธุ์ข้าวที่กรมการข้าวออกให้นั้น หากผู้ใดลอกเลียนแบบ จะมีโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี ปรับไม่เกิน 200,000 บาท หรือ ทั้งจำทั้งปรับ แต่หากมีการปลอมเครื่องหมายจะมีโทษจำคุกไม่เกิน 4 ปี ปรับไม่เกิน 400,000 บาทหรือทั้งจำทั้งปรับและในวันที่ 19 ก.พ. นี้ กระทรวงพาณิชย์จะเชิญกลุ่มสหกรณ์,ตัวแทนที่ต้องการจำหน่ายมาหารือเพื่อทำความเข้าใจร่วมกันอีกครั้ง ซึ่งข้าวพันธุ์ดังกล่าวถือเป็นอนาคตของข้าวไทยที่จะสามารถเพิ่มมูลค่าให้กับผลผลิตของเกษตรกรได้

ขณะที่ กรมการข้าวร่วมกับมหาวิทยาลัยมหิดล เผยผลวิจัย ข้าวพันธุ์ กข43 พบว่า มีความนุ่มและมีคุณสมบัติให้น้ำตาลต่ำ เหมาะกับกลุ่มผู้ที่ควบคุมน้ำหนักและกลุ่มผู้ป่วยโรคเบาหวานและโรคไต