พล.ท.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหมเปิดเผยว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้กล่าวชื่นชมและเป็นกำลังใจให้ ฝ่ายความมั่นคง ทั้งทหาร ตำรวจและฝ่ายปกครอง ที่กำลังร่วมกันเปิดปฏิบัติการกวาดล้างยาเสพติดทุกพื้นที่ทั่วประเทศ ทั้งการสกัดกั้นตามพื้นที่ชายแดน การตรวจสกัดจับตามเส้นทางลำเลียง รวมทั้งการสืบค้นทำลายแหล่งพักและแหล่งกระจายยาเสพติดเข้าไปในชุมชน โดยมีผลปฏิบัติการ เดือน มิ.ย. 2561 สามารถยึดยาบ้าได้ถึง 43 ล้านเม็ด ยาไอซ์เกือบ 600 กิโลกรัมรวมทั้งเฮโรอีน กัญชาและพืชกระท่อมจำนวนมาก มูลค่ารวมหลายพันล้าน จับกุมผู้กระทำผิด ได้กว่า 3 หมื่นคน
พล.อ.ประวิตร ได้ย้ำว่า การแก้ปัญหายาเสพติด ถือเป็นภารกิจสำคัญที่ทุกรัฐบาล ต้องดำรงความเข้มแข็งทางนโยบายและคงเข้มมาตรการบริหารจริงจังต่อเนื่องกันไป พร้อมทั้งจำเป็นต้องสร้างการตระหนักรู้และการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วนของสังคมควบคู่กันไป โดยกำชับทุกหน่วยงานของฝ่ายความมั่นคง ให้ความสำคัญร่วมขับเคลื่อนแก้ปัญหายาเสพติดทั้งระบบต่อเนื่องกันไป และให้ประสานกับ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) อย่างใกล้ชิด เพื่อประเมินและติดตามสถานการณ์ วางแผนเชิงรุกเปิดปฏิบัติการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดให้ครอบคลุมทุกมิติให้มากขึ้น
รวมทั้งต้องสืบต่อขยายผลเชื่อมโยงข้อมูลให้ถึงบุคคลที่อยู่เบื้องหลังกระบวนการบ่อนทำลายชาติให้ได้ และให้ใช้มาตรการทางกฎหมายเข้มถึงที่สุดให้มีผลทั้งอาญาและยึดทรัพย์ในทุกราย
ทั้งนี้ สถานการณ์การแพร่ระบาดยาเสพติดภาพรวมของประเทศ ยังเป็นที่กังวลร่วมกัน โดยประเทศไทยยังเป็นถูกใช้เป็นเส้นทางลำเลียงและจุดพักยาสำคัญ สำหรับการส่งออกไปยังภูมิภาค ขณะเดียวกัน มีการแพร่ระบาดใช้ยาเสพติดรูปแบบต่างๆ ในกลุ่มเยาวชนมากขึ้น โดยเฉพาะช่วงการแข่งขันฟุตบอลโลก มียาเสพติดจำนวนมาก ทั้งยาบ้าและยาไอซ์จากประเทศเพื่อนบ้าน ทะลักเข้าไทยทางภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เป็นยาบ้าเกือบ 50 ล้านเม็ด โดยเจ้าหน้าที่ทำงานร่วมกันยึดได้ครั้งละเกือบ 10 ล้านเม็ด
ขณะเดียวกัน ข้อมูลจำนวนมากที่ได้จากภาคประชาชนทะยอยแจ้งในแต่ละพื้นที่ เจ้าหน้าที่กำลังติดตามกวาดล้างจับกุม เพื่อยับยั้งกระบวนการบ่อนทำลายทรัพยากรบุคคลของประเทศให้ได้
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :