ตัวแทนสมาคมเกษตรกรชาวสวนยาง 16 จังหวัดภาคใต้ และสภาเครือข่ายเกษตรกรชาวสวนยางแห่งประเทศไทย ยื่นข้อเสนอการปฏิรูปยางพาราทั้งระบบ ต่อนายลักษณ์ วจนานวัช รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์

ข้อเสนอดังกล่าวนั้น คือ การปฏิรูปยางพารา 5 ด้าน ได้แก่ การปฏิรูปชาวสวนยาง โดยให้เกษตรกรรายย่อยพึ่งพาตนเองได้ การปฏิรูปสวนยางโดยเพิ่มพื้นที่ปลูกพืชชนิดอื่น เช่น ปลูกพืชแซมยาง  ปฏิรูปการผลิตและการแปรรูป โดยส่งเสริมให้เกษตรกรรายย่อยรวมกลุ่มวิสาหกิจชุมชน หรือ สหกรณ์ชาวสวนยาง เพื่อรวบรวมน้ำยางมาแปรรูปสร้างมูลค่าเพิ่ม ปฏิรูปการตลาด ด้วยการลดพื้นที่ปลูกยาง และให้รัฐสนับสนุนพืชอื่นทดแทนเพิ่มเติม รวมทั้งมีนโยบายใช้ยางในประเทศเพิ่มขึ้น

ภายหลังหารือร่วมกัน รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรฯ ได้สั่งตั้งคณะทำงานแก้ปัญหาราคายางพารา มีนายสุพัฒน์ เอี้ยวฉาย เป็นประธานคณะทำงาน 

ตัวแทนชาวสวนยาง ยังได้เสนอแนวทางปฏิรูปยางพาราไทย เพิ่มเติม 3 ประเด็น คือ ขอให้มีตัวแทนชาวสวนยาง มีส่วนร่วมกำกับดูแลยางพารา ขอมีส่วนร่วมเสนอกลยุทธ์ ในยุทธศาสตร์ยางพารา 20 ปี และขอให้ปรับปรุงระเบียบภายในของ กยท. เช่น พ.ร.บ.การยางแห่งประเทศไทย พ.ศ. 2558 มาตรา 49 (5) ซึ่งระบุ ให้นำเงินค่าธรรมเนียมพิเศษในการส่งออกยางพารา (เงินเซส) ไม่เกินร้อยละ 7 เป็นค่าใช้จ่ายในการจัดสวัสดิการเพื่อเกษตรกรชาวสวนยาง โดยเสนอแก้ระเบียบนี้ ให้เกษตรกรชวนยางที่สมัครใจ สามารถจ่ายเงินเป็นสวัสดิการแก่ตัวเองได้ด้วย

นายสุนทร รักษ์รงค์ สมาคมเกษตรกรชาวสวนยาง 16 จังหวัดภาคใต้ กล่าวว่า ต้องการให้ กยท. จ่ายเงินสวัสดิการให้คนกรีดยาง ครัวเรือนละ3,000 บาทเพื่อเยียวยาความเดือดร้อนจากวิกฤติราคายางตกต่ำ และตั้งบอร์ด กยท. เฉพาะกิจ เพื่อปฏิรูปการยางฯ

ขอเรียกร้องดังกล่าว สมาคมฯ จะให้เวลา 30 วันจากนี้ หากรัฐบาลไม่สามารถแก้ไขข้อเรียกร้องได้ จะออกมาชุมนุมเคลื่อนไหวที่ทำเนียบรัฐบาล หรือกระทรวงเกษตรและสหกรณ์อีกครั้ง