ไม่พบผลการค้นหา
พล.อ.ประวิตร ติดตามการแก้ปัญหาหนี้นอกระบบในพื้นที่ภาคอีสาน ชี้เป็นนโยบายสำคัญที่ต้องลงไปดูแลบรรเทาความเดือดร้อนและช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยให้เข้มแข็งไปด้วยกัน

พล.ท.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม เปิดเผยว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และคณะ เดินทางไปมอบนโยบายและติดตามความคืบหน้าการขับเคลื่อนแก้ปัญหาหนี้นอกระบบในพื้นที่ภาคอีสาน ณ จังหวัดอุดรธานี โดยภาพรวม จากการสำรวจและรับแจ้งจากประชาชน พบข้อมูลประชาชนในพื้นที่ภาคอีสาน มีสถานะเป็นลูกหนี้นอกระบบ จำนวน 5.6 แสนคน หรือ กว่าครึ่งหนึ่งของผู้เป็นหนี้นอกระบบทั้งประเทศ จำนวนกว่า 9 แสนราย 

"ส่วนใหญ่เป็นประชาชนและเกษตรกรที่มีรายได้น้อยไม่เพียงพอ ต้องการกู้เงิน เพื่อความจำเป็นในการใช้จ่ายลงทุนประกอบอาชีพ หรือกู้ฉุกเฉิน เพื่อการศึกษาและรักษาพยาบาล โดยไม่สามารถเข้าถึงแหล่งทุนในระบบได้ จึงกู้หรือหยิบยืมผ่านนายทุนนอกระบบ ที่ทำสัญญาเอารัดเอาเปรียบ ไม่เป็นธรรม จนเกิดภาระทางกฎหมายและสูญเสียทรัพย์สิน โดยเฉพาะที่ดินทำกิน บ้านพักอาศัย หรือเครื่องมือทำการเกษตร และยังเกิดภาระทางการเงินที่ต้องผ่อนชำระหนี้เกินกำลัง พร้อมกับต้องพบกับการติดตามทวงหนี้ในรูปแบบต่างๆ ทั้งการข่มขู่ การใช้ความรุนแรงหรือทำให้อับอาย ซึ่งส่งผลต่อสภาวะจิตใจและคุณภาพชีวิตของทุกคนในครอบครัว" พล.อ.คงชีพ กล่าว

ทั้งนี้จากรายงานความคืบหน้าในการแก้ปัญหาหนี้นอกระบบทั้งประเทศปัจจุบัน สามารถร่วมเจรจาไกล่เกลี่ย ทำข้อตกลงประนอมและปรับโครงสร้างหนี้กับทั้งลูกหนี้และเจ้าหนี้แล้ว รวม 209,538 ราย ขณะเดียวกันได้ร่วมกันใช้มาตรการทางกฎหมายกับเจ้าหนี้นอกระบบ ผ่านศูนย์ปฏิบัติการป้องกันปราบปรามการฉ้อโกงทรัพย์สินของประชาชน ที่จัดตั้งขึ้น ณ กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค และกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดทั่วประเทศ โดยปัจจุบันได้ร่วมกันดำเนินการและสามารถนำกลับมาซึ่งทรัพย์สินของประชาชน จากสัญญาที่ไม่เป็นธรรม เป็นโฉนดที่ดินกว่า 7,000 ไร่ และรถยนต์จำนวนมาก มูลค่ารวมกว่า 3,000 ล้านบาท 

พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า รัฐบาลปัจจุบัน มิได้ละเลยต่อปัญหาดังกล่าว โดยกำลังเข้าไปแก้ไขปัญหาฐานรากและถือเป็นวาระสำคัญในยุทธศาสตร์ชาติ ด้านการสร้างโอกาสและความเสมอภาคทางสังคม ที่ต้องขับเคลื่อนแก้ปัญหาความเหลื่อมล้ำและสร้างความเป็นธรรมทางสังคมอย่างจริงจังและต่อเนื่องกันไป เพื่อแก้ปัญหาความยากจนและให้ทุกคนสามารถลุกขึ้นยืนและเดินหน้าเข้มแข็งไปด้วยกัน โดยปัจจุบัน พล.อ.ประยุทธ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้มอบหมายให้หน่วยงานฝ่ายความมั่นคง ฝ่ายเศรษฐกิจและฝ่ายกฎหมาย ได้ร่วมกันแก้ปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนจากหนี้นอกระบบ ซึ่งกำลังดำเนินการร่วมกัน ทั้งมาตรการเจรจาไกล่เลี่ย และมาตรการทางกฎหมายควบคู่กันไปอย่างจริงจัง 

พร้อมกันนี้ได้กล่าวชื่มชมและเป็นกำลังใจให้กับเจ้าหน้าที่ทุกฝ่าย ที่พยายามทำงานหนักร่วมกันอย่างต่อเนื่อง เพื่อช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน โดยกำชับว่าอย่าโดดเดี่ยวประชาชน ให้ทุกฝ่ายใช้กลไกระดับภาคและจังหวัด สำรวจและรับปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนจากหนี้นอกระบบที่ทะยอยแจ้งเพิ่มเติม พร้อมทั้งให้ขับเคลื่อนแก้ปัญหาร่วมกันอย่างใกล้ชิด โดยประสานข้อมูลและทำงานร่วมกันให้เป็นผลอย่างจริงจังต่อเนื่องกันไป ทั้งการไกล่เกลี่ยและการบังคับใช้กฎหมาย เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนและคืนความเป็นธรรมให้กับประชาชนที่มีรายได้น้อย พร้อมกันนี้ให้ทยอยส่งคืนทรัพย์สิน โดยเฉพาะที่ดินทำกินให้กับประชาชนทั่วประเทศเป็นระยะๆ เพื่อให้ประชาชนกลับมามีที่ดินทำกินของตนเองได้ดังเดิม

ทั้งนี้ได้ร่วมพิธีส่งมอบโฉนดที่ดิน กลับคืนให้กับประชาชนที่เป็นหนี้นอกระบบในพื้นที่ภาคอีสาน จำนวน 1,778 คน เป็นโฉนดที่ดิน จำนวน 1,523 ฉบับ รวม 6,309 ไร่ ซึ่งในวันเดียวกันนี้ ในทุกจังหวัด ได้กระทำพิธีมอบทรัพย์สินคืนให้กับประชาชน 2,287 คนพร้อมๆกันทั่วประเทศในภาพรวม เป็นโฉนดที่ดินกว่า 7,000 ไร่ และรถยนต์จำนวนมาก มูลค่ารวมกว่า 3,000 ล้านบาท