ที่อาคารชาเลนเจอร์ อิมแพ็คอารีน่า เมืองทองธานี สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ร่วมกับกระทรวงมหาดไทย ประชุมเตรียมความพร้อมเพื่อสนับสนุนการได้มาซึ่ง ส.ว. และการเลือกตั้ง ส.ส. โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัด นายอำเภอจากทั่วประเทศประมาณ 1,300 คน ร่วมประชุม

นายอิทธิพร บุญประคอง ประธานกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) มอบนโยบายเกี่ยวกับการเลือกตั้งที่สุจริตและเที่ยงธรรม ว่า หลังจากมี พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการได้มาซึ่ง ส.ว.พ.ศ.2561 แล้ว กกต.ได้ออกระเบียบรองรับการเลือก ส.ว. ให้เป็นไปโดยสุจริต โดยจะเป็นการเลือกกันเองของกลุ่มอาชีพต่างๆ 10 กลุ่ม ไม่ใช่การเลือกโดยประชาชนทั่วไป แต่ต้องเป็นผู้สมัครถึงจะเลือกได้ โดยกระบวนการเลือก ส.ว.จะเริ่มขึ้นเมื่อมีพระราชกฤษฎีกาการเลือก ส.ว. น่าจะมีผลบังคับประมาณ วันที่ 30 พ.ย. จากนั้นจึงจะมีการประกาศวันรับสมัครวันเลือก ส.ว.ได้ประมาณวันที่ 5 ธ.ค.

ส่วนการคัดเลือกมี 3 ระดับ คือ ระดับอำเภอประมาณวันที่ 30 ธ.ค. โดยมีการตั้งคณะกรรมการระดับอำเภอขึ้นมาดูแลโดยมีนายอำเภอเป็นประธาน และมีข้าราชการรวมทั้งเจ้าหน้าที่ กกต.ร่วมเป็นกรรมการ โดยอำเภอหนึ่งจะมีผู้ได้รับเลือกประมาณ 60 คน หรือประมาณ 55,680 คน ทั่วประเทศ 

จากนั้นวันที่ 6 ม.ค. 2562 จะต้องมีการจัดให้มีการเลือกระดับจังหวัด และมีคณะกรรมการระดับจังหวัดดูแล โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นประธาน หัวหน้าส่วนราชการ และผอ.กกต.ประจำจังหวัดเป็นกรรมการ โดยจะคัดเลือกเหมือนระดับอำเภอ 6,160 คนทั่วประเทศ จากนั้นอีก 10 วัน ก็จะมีการคัดเลือกระดับประเทศ โดยมีตนเป็นประธานกรรมการระดับประเทศ โดยใช้วิธีเลือกเหมือนกัน โดยจะคัดคนที่ได้คะแนนสูงในแต่ละกลุ่มกลุ่มละ 10 คน ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จ วันที่ 16 ม.ค.2562 จากนั้น ภายในวันที่ 22 ม.ค. 2562 กกต.ก็จะเสนอรายชื่อ 200 คน ให้ คสช.ต่อไป

“หากการเลือก ส.ว.ครั้งแรก เป็นไปด้วยความคึกคัก ผู้สมัครล้นหลาม เป็นไปด้วยความเข้าใจของผู้สมัครและผู้ปฏิบัติ ก็จะกลายเป็นพลวัตรที่ส่งผลทำให้บรรยากาศการเลือกตั้ง ส.ส.คึกคักตามไปด้วย ดังนั้นอยากให้ดำเนินการอย่างไรก็ได้ให้มีผู้เข้ามาสมัคร ส.ว.ในทุกระดับให้มีจำนวนมากที่สุด”ประธาน กกต.กล่าว

คาดแบ่งเขตเลือกตั้ง ส.ส. ใน 10 พ.ย.

นายอิทธิพร กล่าวว่า ส่วนการเลือกตั้ง ส.ส.ครั้งนี้ จะเป็นการเลือกตั้งครั้งแรกที่ กกต.จะมีเครื่องไม้เครื่องมือหรือกฎหมายใหม่ๆมาช่วยดำเนินการจัดการเลือกตั้ง ทั้งเรื่องการสืบสวนไต่สวนคดีเลือกตั้ง หรือกรณี กกต. 1 คนสามารถสั่งระงับยับยั้งการเลือกตั้งบางหน่วยได้ การมีผู้ตรวจการเลือกตั้ง การคุ้มครองพยานรวมทั้งกันบุคคลไว้เป็นพยาน เป็นต้น แต่การเลือกตั้งครั้งนี้จะเกิดขึ้นไม่ได้หากขาดการร่วมมือร่วมใจของทุกฝ่าย 

ขณะที่วันที่ 11 ธ.ค.จะเป็นช่วงเวลาที่ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.มีผลบังคับใช้ ซึ่งจะเป็นวันแรกที่เริ่มนับกรอบเวลา 150 วันของการจัดเลือกตั้ง โดยที่ผ่านมา กกต.ได้ดำเนินการแบ่งเขตไปแล้ว โดยจะแล้วเสร็จภายในวันที่ 10 พ.ย.นี้ ส่วนการคัดเลือกผู้ตรวจการเลือกตั้งนั้น ได้มีการคัดเลือกไว้แล้ว 616 คน และกำลังตรวจสอบข้อร้องเรียน คาดว่าอีกไม่นานก็จะเสนอให้ กกต.ชุดนี้พิจารณาต่อไปได้