(วานนี้ 22 ต.ค.) นายสกลธี ภัททิยกุล รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยภายหลังการประชุมกรณีการปลดแผ่นป้ายโฆษณาที่ได้บอกเลิกสัญญา และการรื้อย้ายตู้โทรศัพท์สาธารณะที่ผิดกฎหมายว่า ตลอด 5 เดือนที่ผ่านมา ทุกสำนักงานเขตได้ดำเนินการรื้อถอนป้ายโฆษณาอย่างต่อเนื่อง ส่วนใหญ่เป็นป้ายโฆษณาอสังหาริมทรัพย์ โดยมีการรื้อและทำลายไปแล้วกว่า 50,000 ป้าย ได้รับเงินค่าปรับประมาณ 3,000,000 บาท

ทั้งนี้ บริษัท ทรีซิกตี้ไฟว์ จำกัด (มหาชน) ผู้ได้สิทธิติดตั้งป้ายเสาสูงของ กทม.จำนวน 1,170 ป้าย ซึ่งเป็นสัญญาตั้งแต่ปี 2555 ได้หยุดจ่ายเงินค่าตอบแทนให้ กทม. ตั้งเเต่ช่วงต้นปีที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบัน ทำให้มียอดเงินค้างชำระกว่า 200 ล้านบาท

กทม.จึงจำเป็นต้องทำหนังสือยกเลิกสัญญาและทำการรื้อถอนป้ายทั้งหมดที่กระจายตามพื้นที่ 50 เขต โดยจะเริ่มดำเนินการในวันที่ 26 ต.ค.นี้ เหลือไว้เพียงโครงสร้างป้าย เนื่องจากเป็นทรัพย์สินของกทม. 

นายสกลธี บอกต่อว่า ยังได้มอบหมายให้สำนักงานกฎหมาย ดำเนินการฟ้องเรียกค่าเสียหายทางแพ่งเพิ่มเติม เนื่องจากทางบริษัทเคยชี้แจงว่ามีปัญหาการเงินภายในบริษัท จึงไม่สามารถจ่ายค่าตอบแทนตามสัญญาได้ เป็นเวลากว่า 5 เดือน แต่ยังคงมีการใช้ประโยชน์จากป้ายโฆษณาดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง

นอกจากนี้จะมีการพิจารณารื้อถอนป้ายโฆษณาที่บดบังภูมิทัศน์หรือวิสัยทัศน์ของประชาชนที่ใช้รถใช้ถนนก่อนทำการรื้อย้ายต่อไป 

ในส่วนของตู้โทรศัพท์สาธารณะผิดกฎหมาย ที่มีการติดป้ายโฆษณาที่ไม่ได้ขออนุญาตกับ กทม. เบื้องต้นพบว่า มีจำนวน 465 ตู้ 1,068 เครื่องใน 8 เขต ได้แก่ พญาไท ราชเทวี บางรัก ปทุมวัน สาทร วัฒนา คลองเตย และพระนคร 

ทั้งหมดนี้เป็นตู้โทรศัพท์ที่บริษัทเอกชนทำสัญญากับ บริษัท ทีโอที จำกัด(มหาชน) ตั้งแต่ปี 2555 แต่หมดสัญญาไปแล้ว และยังคงไม่มีการรื้อย้าย โดยสัปดาห์หน้าจะมีการประชุมเเละคาดว่าจะสามารถสั่งการให้รื้อถอนได้ทั้งหมด เพราะตู้โทรศัพท์เหล่านี้ก่อให้เกิดปัญหาเกี่ยวกับสุขอนามัย บางครั้งมีคนเร่ร่อน หรือสุนัขจรจัด เข้าไปหลับนอนข้างใน

ภาพจากเพจเฟซบุ๊ก สกลธี ภัททิยกุล