ภาพ "สมศักดิ์ เทพสุทิน" รมว.ยุติธรรม และ "อนุชา นาคาศัย" รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี 2 แกนนำพรรคพลังประชารัฐ(พปชร.) ดอดขึ้นตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล เพื่อเข้าพบ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม เมื่อวันที่ 10 มิ.ย.ที่ผ่านมา ทำให้คิดถึงภาพเมื่อไม่นานมานี้
ที่ อุตตม สาวนายน อดีต รมว.คลัง และ สนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ อดีต รมว.พลังงาน วิ่งเต้นเข้าหา "บิ๊กตู่" หลังถูกขย่มเปลี่ยนตัวผู้บริหารพรรค พปชร. ก่อนที่เวลาต่อมาก๊วน 4 กุมาร จะถูกลดบทบาทในพรรคและลาออกจากตำแหน่งรัฐมนตรีในที่สุด
เดือน มิ.ย. 2563 พรรค พปชร.มีมติเลือก พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นหัวหน้าพรรค โดยเป็นส่วนหนึ่งของแผนการขับ 4 กุมาร ออกจากพรรค เพื่อเปิดทางให้ตำแหน่งรัฐมนตรีว่างลง
ผ่านไป 1 ปี เกิดแรงกระเพื่อมการปรับโครงสร้างพรรค พปชร.เกิดขึ้นอีกครั้ง มีข่าวว่า ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรและสหกรณ์ ต้องการได้มาซึ่งตำแหน่งเลขาธิการพรรค ที่ตอนนี้เป็นของอนุชา นาคาศัย
ร.อ.ธรรมนัส เดินเกมผ่าน "บิ๊กป้อม" ที่มักให้ตำแหน่งสำคัญๆ แก่คนใกล้ชิด เช่นว่า นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ นักการเมืองหน้าใหม่ ยังได้ตำแหน่ง รมช.แรงงาน เป็นต้น
ผลงานของ ร.อ.ธรรมนัส ต้องนับว่า เข้าตา "บิ๊กป้อม" เป็นอย่างยิ่ง เพราะที่ผ่านมา ร.อ.ธรรมนัส มีบทบาทสำคัญในการแจกกล้วยให้กับพรรคเล็กพรรคน้อย จนเสียงของรัฐบาลมีมากพอ ตั้งแต่เริ่มตั้งรัฐบาล จวบจนปัจจุบัน
พล.อ.ประวิตร ไว้ใจ 'ร.อ.ธรรมนัส' จนขนาดก่อนหน้านี้ ในการแบ่งงานให้รัฐมนตรีดูแลพื้นที่เพื่อขับเคลื่อนงานตามนโยบาย พล.อ.ประะยุทธ์ต้องให้ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรและสหกรณ์ ซึ่งเดิมดูแลพื้นที่จังหวัด พะเยา เชียงราย และหนองบัวลำภู เปลี่ยนมาให้ดูแลพื้นที่ สงขลา นครศรีธรรมราช และภูเก็ต ที่เป็นความรับผิดชอบเดิมของพรรคประชาธิปัตย์
โดยเป็นความพยายามวางหมากเตรียมสำหรับการเลือกตั้งครั้งต่อไป หลังพรรค พปชร.ชนะการเลือกตั้งซ่อม จ.นครศรีธรรมราช ทำให้ เมืองนคร มี ส.ส.ประชาธิปัตย์ 4 คน พปชร. 4 คนเท่ากัน
แต่กระนั้น ก็สร้างความไม่พอใจให้พรรคประชาธิปัตย์ จนกระทั่งต่อมา พล.อ.ประยุทธ์ ต้องเปลี่ยนแปลงคำสั่งให้รัฐมนตรีจากพรรคประชาธิปัตย์ ดูแลพื้นที่ภาคใต้เช่นเดิม
ล่าสุด “เรืองไกร ลีกิจวัฒนะ" ย้ายจากพรรคเพื่อไทย มาพลังประชารัฐ ก็เป็นผลงานของทีมธรรมนัส จากการทาบทามของ 'วิรัช รัตนเศรษฐ' ประธานวิปรัฐบาล ที่ตอนหลังย้ายมาสมทบทีมธรรมนัสอย่างเต็มตัว นั่นทำให้เครดิตของ 'ก๊วนธรรมนัส' ดูดีขึ้นอย่างเป็นได้ชัด
อย่างไรก็ตาม การจะได้มาซึ่งตำแหน่งเลขาธิการพรรคนั้น ด่านแรกที่จะต้องขย่มคือเจ้าของเก้าอี้เดิม “อนุชา นาคาศัย” แห่งก๊วนสามมิตร
"สามมิตร" ที่เมื่อปีที่แล้ว ขย่มเก้าอี้รัฐมนตรีของแก๊ง 4 กุมาร มาวันนี้กลับเป็นฝ่ายที่ต้องดิ้นเพื่อความอยู่รอดเสียเอง
หลัง “สมศักดิ์” และ “อนุชา” ดอดขึ้นตึกไทยคู่ฟ้าได้เพียง 1 วัน
“อนุชา” เปิดแถลงข่าวถ่ายทอดสดการแข่งขันฟุตบอลยูโร 2020 รอบสุดท้าย โดยมีผู้ใจบุญสนับสนุนคือ “โกมล จึงรุ่งเรืองกิจ” ประธานกรรมการ บริษัท ซัมมิทฟุตแวร์ จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายรองเท้าแบรนด์ แอโร่ซอฟ (Aerosoft)
โดยเป็นการประกาศซื้อลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสด วันเดียวกับที่มีการแข่งขันนัดแรกพอดี ทั้งที่ก่อนหน้านี้ มีข่าวว่า nbt2hd ยังหาสปอนเซอร์ไม่ได้
สำหรับโกมล คือ พี่ชายของ “สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ” รมว.อุตสาหกรรม พี่ใหญ่แห่งสามมิตร เป็นพ่อของ “พงศ์กวิน จึงรุ่งเรืองกิจ” ส.ส.บัญชีรายชื่อ และกรรมการบริหารพรรค พปชร.แกนนำกลุ่มสามมิตร
ต้นเดือน พ.ค. โกมล จึงรุ่งเรืองกิจ เพิ่งบริจาคเงิน 100 ล้านบาท และอุปกรณ์ทางการแพทย์ สนับสนุนมูลนิธิโรงพยาบาลศิริราช
ย้อนไปก่อนการเลือกตั้ง “โกมล” ได้บริจาคเงิน 3 ล้านบาท ให้พรรคพลังประชารัฐ
เนื่องจากอยู่ในช่วงที่สามมิตร กำลังดิ้นรนเพื่อให้ “อนุชา” ยังอยู่ในตำแหน่งเลขาธิการพรรค พปชร.ต่อไป อันหมายถึงว่าตำแหน่ง รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ก็จะไม่มีสั่นคลอนด้วยเช่นกัน
การทุ่ม 310 ล้าน ซื้อลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดการแข่งขันฟุตบอลยูโร 2020 รอบสุดท้าย เพื่อให้คนไทยได้ชมฟรี จึงเหมือนการซื้อใจ 'ประยุทธ์' สกัดเส้นทางสู่ดวงดาวของ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า
ประเด็นนี้ ยังต้องจับตาในวันที่ 18 มิ.ย.นี้ ที่จะมีการประชุมใหญ่สามัญพรรคพลังประชารัฐประจำปี 1/2564 ที่ จ.ขอนแก่น
รอดูว่า 310 ล้าน ที่ว่าเพื่อความสุขคนไทยคืนความสุขให้คนไทยได้ดูบอล จะซื้อใจ 'ประยุทธ์' ได้หรือไม่
ข่าวที่เกี่ยวข้อง