นางลดาวัลลิ์ วงศ์ศรีวงศ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย แสดงความเห็นกรณี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช.กล่าวกับประชาชนที่มาต้อนรับระหว่างลงพื้นที่และประชุม ครม.สัญจร ที่จังหวัดบึงกาฬเมื่อวันที่ 12 ธ.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งมีการระบุว่า การที่รัฐบาล คสช. สามารถมอบที่ทำกินให้กับประชาชนได้เพราะกลไกของ คสช. รัฐบาลนี้เป็นคนทำและใช้มาตรา 44 ในการดำเนินการ หากวันข้างหน้ามีรัฐบาลแต่ไม่มีมาตรา 44 แล้วจะทำอย่างไร ว่า เมื่อเข้าสู่เส้นทางการเมืองอย่างเต็มตัวแล้วก็ต้องปรับแนวคิดใหม่ อย่าไปเสพติดอำนาจ มาตรา 44  

"เนื่องจากเป็นที่ทราบกันดีว่า มาตรา 44 ที่ท่านพูดกับประชาชนอย่างภาคภูมิใจนั้น แท้จริงแล้วคือแนวคิดแบบเผด็จการ เป็นคำสั่งที่มาจากคนๆ เดียว ไม่มีการยึดโยงกับประชาชน ไม่มีหน่วยงานหรือองค์กรใดทักท้วงหรือตรวจสอบการใช้อำนาจได้ ดังนั้นเมื่อท่านลงสู่สนามการเมืองแบบเต็มตัวภายใต้ระบอบประชาธิปไตยแล้ว จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องปรับแนวความคิดและวิธีการทำงานเสียใหม่" โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าว

นางลดาวัลลิ์ กล่าวอีกว่า หลักการที่สำคัญของระบอบประชาธิปไตยคือการยอมรับและรับฟังในเสียงส่วนใหญ่ ไม่ใช่การเอาความคิดของตัวเองเป็นใหญ่โดยไม่เปิดโอกาสให้ประชาชนมีส่วนร่วมแสดงความคิดเห็นและตัดสินใจ และที่สำคัญกระบวนการในการทำงานจะต้องโปร่งใสและตรวจสอบได้ กฏหมายทุกฉบับที่บังคับใช้ต้องเป็นกฏหมายที่ได้รับความเห็นชอบจากรัฐสภา ที่สมาชิกรัฐสภามาจากการเลือกตั้งของประชาชนเท่านั้น ไม่มีการใช้มาตรา 44 เป็นเกราะป้องกันตัวเหมือนที่ผ่านมา  

“การออกมาเตือน พล.อ.ประยุทธ์ ในครั้งนี้ไม่ใช่มาชวนทะเลาะ หรือสร้างบรรยากาศความขัดแย้งอะไร แต่เป็นความปรารถนาดีในฐานะที่เคยเป็นนักการเมืองมาก่อน และที่สำคัญเป็นนักการเมืองที่ยึดมั่นในระบอบประชาธิปไตย จึงคิดว่าน่าที่จะให้คำแนะนำกับท่านได้บ้าง ” นางลดาวัลลิ์ กล่าว

นอกจากนี้ นางลดาวัลลิ์ ยังแสดงความเห็นในประเด็นที่ พล.อ.ประยุทธ์ ยอมรับเป็นนักการเมืองเต็มตัว และจะสานฝันชาวบ้านให้เป็นจริง และพร้อมยอมตายเพื่อประชาชน ว่า ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของประชาชนว่าจะยอมรับและจะสนับสนุนท่านหรือไม่ และตลอด 4 ปีที่ผ่านมาท่านก็ทำตัวเป็นนักการเมืองมาโดยตลอดอยู่แล้ว เพียงแต่พอจะหมดอำนาจก็ประกาศยอมรับออกมาอย่างชัดเจนแค่นั้นเอง