ภายหลังที่ประชุมร่วมกันของรัฐสภาเปิดให้สมาชิกรัฐสภาอภิปรายคุณสมบัติของผู้ได้รับเสนอชื่อเป็นนายกรัฐมนตรีตั้งแต่เปิดประชุมเมื่อเวลา 11.00 น. และปิดการอภิปรายเมื่อเวลา 21.30 น. โดยผู้ได้รับการเสนอชื่อให้ที่ประชุมร่วมกันของรัฐสภาให้ความเห็นชอบเป็นนายกรัฐมนตรีตามมาตรา 272 ของรัฐธรรมนูญ มี 2 คน คือ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา แคนดิเดตนายกฯ จากพรรคพลังประชารัฐ และนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีจากพรรคอนาคตใหม่ ซึ่งตามรัฐธรรมนูญ กำหนดให้การให้ความเห็นชอบบุคคลผู้สมควรเป็นนายกรัฐมนตรีให้ลงคะแนนโดยเปิดเผยและต้องมีคะแนนเสียงมากกว่ากึ่งหนึ่งของสมาชิกสองสภาเท่าที่มีอยู่

สมาชิกรัฐสภาเท่าที่มีอยู่ 748 คนจาก750 คน โดยขาดนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ลาออก ส.ส. และนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคอนาคตใหม่หยุดปฏิบัติหน้าที่ โดยมีสมาชิกลงมติในที่ประชุมจำนวน 747 คน ขาดน.ส.จุมพิตา จันทรขจร ส.ส.นครปฐม พรรคอนาคตใหม่ลาป่วย ดังนั้น ผู้ได้รับเลือกเป็นนายกฯ ต้องมีคะแนนเสียงมากกว่ากึ่งหนึ่งคือ 374 เสียงหรือ 375 เสียงขึ้นไป ของสมาชิกสองสภาเท่าที่มีอยู่ คือ 748 คน

โดยภายหลังการลงมติแบบเปิดเผยเป็นเวลา 2 ชั่วโมงกว่า นายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภาแจ้งผลการลงคะแนนผลปรากฎว่า พล.อ.ประยุทธ์ได้รับเลือกเป็นนายกรัฐมนตรีด้วยคะแนน 500 คะแนน ขณะที่นายธนาธร ได้ 244 เสียง และงดออกเสียง 3 คะแนน จึงถือว่าพล.อ.ประยุทธ์ ได้รับเลือกให้เป็นนายกรัฐมนตรี

(สิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ ส.ส.ศรีสะเกษ พรรคภูมิใจไทย งดออกเสียงโหวตนายกฯ ยกมือไหว้ขอโทษหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย)

(ชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา วัย 80 ปี เซ็นต์เอกสารช่วงเวลาเที่ยงคืนหลังเสร็จสิ้นประชุมรัฐสภาลงมติเลือกนายกรัฐมนตรี)

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า โดยระหว่างการลงคะแนนเปิดเผยแบบรายบุคคล นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ ส.ส.ศรีสะเกษ พรรคภูมิใจไทย ได้ประกาศงดออกเสียงกลางที่ประชุม โดยหลังลงคะแนนนายสิริพงศ์ ได้พูดคุยกับ ส.ส.พรรคภูมิใจไทย ด้วยสีหน้าที่เคร่งเครียดและเอามือขยี้ดวงตาหลายครั้ง พร้อมทั้งยกมือไหว้ขอโทษนายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย และทันทีที่นายสิริพงศ์ลงคะแนนเสร็จได้ออกจากห้องประชุมสภาทันที

ขณะที่นายอิทธิรัตน์ จันทรสุรินทร์ ส.ส.ลำปาง พรรคเพื่อไทย ได้ขานว่า “พล.อ.ประยุทธ์” ทำให้ ส.ส.พรรคเพื่อไทยที่นั่งอยู่ใกล้กันถึงขั้นตกใจสะดุ้งเป็นแถวต้องหันมาหานายอิทธิรัตน์ แต่นายอิทธิรัตน์ บอกว่า “ไม่ชอบ แต่ชอบนายธนาธร”

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า โดย 500 เสียงที่ลงมติเห็นชอบพล.อ.ประยุทธ์ มาจาก ส.ส.251เสียงและ ส.ว.249 เสียง ส่วน 3 เสียงที่งดออกเสียง คือนายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา นายพรเพชร วิชิตชลชัย รองประธานรัฐสภา นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ ส.ส.ศรีสะเกษ พรรคภูมิใจไทย ขณะที่พรรคขั้วต้านสืบทอดอำนาจ 7 พรรคโหวตให้นายธนาธร ครบทุกเสียง ที่ 244 เสียง

ด้านนายชวน ระบุกับผู้สื่อข่าวหลังประชุมรัฐสภาเสร็จสิ้นว่า จะประชุมสภาฯ ต่อในวันที่ 6 มิ.ย.ตามปกติตอนบ่าย เมื่อถามถึงการทูลเกล้าฯ เสนอชื่อนายกรัฐมนตรีคนใหม่ นายชวนยังไม่ตอบและเดินทางออกจากบริษัททีโอที จำกัด (มหาชน) ทันที

ข่าวที่เกี่ยวข้อง:

• สื่อนอกตีข่าว รัฐสภาไทยต่ออายุ 'เผด็จการประยุทธ์' ด้วยการลงคะแนนให้เป็นนายกฯ
• ‘ธนาธร’ ปัดไม่พ่ายแพ้ แต่ถูกปล้นชัยชนะ มุ่งจับมือ 7 พรรคทำงานหนักให้มากกว่านี้
• 'หญิงหน่อย' โพสต์ 7 พรรคพยายามปกป้องประชาธิปไตยอย่างถึงที่สุด