เวลา 10.30 น. คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานยุทธศาสตร์การเลือกตั้งพรรคเพื่อไทย พร้อมด้วย น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ ส.ส. กทม. นายสามารถ แก้วมีชัย อดีตรองประธานสภาผู้แทนราษฎร น.ส.ละออง ติยะไพรัช นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน นายรังสรรค์ วันไชยธนวงศ์ ส.ส.เชียงราย พรรคเพื่อไทย ลงพื้นที่ ต.นางแล อ.เมือง จ.เชียงราย เพื่อรับฟังปัญหาสถานการณ์ภัยแล้ง และหมอกควันที่สวนสับปะรดภูแลบ้านป่ารวก ซึ่งสวนสับปะรดที่ ต.นางแล ได้เกิดความเสียหายอย่างหนักจากปัญหาภัยแล้ง เนื่องจากฝนไม่ตกมา 5 เดือนทำให้กระทบต่อพืชผลการเกษตรของชาวสวน
นายสุรินทร์ เขื่อนเพชร นายกเทศมนตรีตำบลนางแล อ.เมือง จ.เชียงราย ระบุว่า ปีนี้สถานการณ์ภัยแล้งใน ต.นางแล ประสบปัญหาหนักกว่าทุกปี เพราะฝนทิ้งช่วงไม่ตกตั้งแต่ ม.ค. จนถึงวันนี้ โดย 5 เดือนฝนไม่ตก ทำให้เกิดภัยแล้ง โดยพื้นที่ปลูกสับปะรด 5,000 ไร่ เมื่อเกิดภัยแล้งทำให้มีความเสียหายกว่า 3,000 ไร่ อีกทั้งยังประสบปัญหาหมอกควันไฟป่า รุนแรงในเดือน มี.ค. - เม.ย. เพราะมีการเผาพื้นที่ป่า ซึ่งมีพื้นที่กว่า 10,000 ไร่ แม้ล่าสุดจะมีการออกมาตรการงดเผาป่าแล้ว แต่ชาวบ้านก็ยังเผาป่า ขณะที่ปีนี้ฝนไม่ตกทำให้ขยะเชื้อเพลิงเยอะ ต้นไผ่ยังเป็นเชื้อเพลิงทำให้เกิดไฟป่า ส่วนการดับไฟป่าได้ใช้เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นอาสาดับไฟป่า โดยใช้มอเตอร์ไซค์วิบากขึ้นไปดับไฟป่า
นายสุรินทร์ ระบุว่า พื้นที่ ต.นางแล ในพื้นที่เพาะปลูกไร่สับปะรด ยังไม่มีหน่วยงานเข้ามาสำรวจเพื่อประกาศให้เป็นพื้นที่ภัยแล้ง โดยภาครัฐมองว่าสับปะรดเป็นไม้ล้มลุก สามารถปลูกขึ้นใหม่เองได้จึงไม่มีความจำเป็นต้องประกาศเป็นพื้นที่ภัยแล้ง
ขณะที่ชาวสวนสับปะรดภูแลบ้านป่ารวก ต่างสะท้อนปัญหาภัยแล้งว่า ปีนี้แล้งจัดทำให้ปลูกสับปะรดภูแลไม่ได้ เกษตรกรยังเดือดร้อนเพราะไม่มีน้ำใช้ เนื่องจากฝนไม่ตกมา 5 เดือนแล้วนับแต่ปีใหม่ และเกษตรกรก็ยังไม่ได้รับการช่วยเหลือในเรื่องค่าชดเชยจากภาครัฐด้วย เพราะภาครัฐยังไม่ประกาศสถานการณ์ภัยแล้งให้กับพื้นที่ ต.นางแล
“ไม่มีรัฐบาลไหนเข้ามาแก้ปัญหาภัยแล้ง ทุกวันนี้อยู่แบบลำบาก ปีนี้ภัยแล้งหนัก อยากให้สับปะรดขายได้ราคากิโลกรัมละ 10 บาท” ชาวสวนรายหนึ่งระบุ
ด้านคุณหญิงสุดารัตน์ ยืนยันกับชาวสวนไร่สับปะรดที่ประสบปัญหาภัยแล้งว่า ต้องให้กำลังใจทุกฝ่ายที่เสียสละ ส่วนตัวเห็นใจที่ต้องต่อสู้และถูกโดดเดี่ยว โดย ส.ส. ได้ระบายความทุกข์ให้ตน ทำให้ตนมาดูปัญหาในพื้นที่ ยืนยันในสัปดาห์หน้าพรรคต้องทำหนังสือเป็นทางการถึงหน่วยงานราชการและขอให้ประกาศให้พื้นที่ ต.นางแล เป็นภัยแล้ง และให้ ส.ส.นำปัญหาไปประสานกันกระทรวงมหาดไทยและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อให้ได้เงินชดเชย
คุณหญิงสุดารัตน์ ย้ำว่า ในปีนี้แม้เกษตรกรปลูกสับปะรดจะไม่มีผลผลิต แต่จะช่วยให้พี่น้องเกษตรกรได้รับเงินชดเชยให้ได้ไร่ละ 15,000-20,000 บาท เพราะเกษตรกรต้องรออีก 1 ปีถึงจะปลูกสับปะรดใหม่ได้ ยืนยันพรรคเพื่อไทยจะประสานให้หน่วยงานราชการเข้ามาเยียวยา และในอนาคตควรมีการทำฝนหลวงเพื่อป้องกันภัยแล้ง
ขณะเดียวกัน คุณหญิงสุดารัตน์ ยังโชว์สับปะรดนางแลที่ปลูกไม่ขึ้นเพราะภัยแล้ง โดยสับปะรดนางแลบางลูกมีลักษณะแคระและแห้งเหี่ยว ทั้งนี้ พื้นที่บ้านป่ารวก มีพื้นที่ปลูกไร่สับปะรด 25 ไร่ โดยสับปะรดทั้งหมดแห้งเหี่ยวไม่สามารถนำมาขายได้
จากนั้นคณะของคุณหญิงสุดารัตน์ ลงพื้นที่ อ.เวียงชัย เพื่อรับฟังปัญหาจากผู้นำท้องถิ่นและชาวบ้านในการแก้ไขสถานการณ์ภัยแล้งที่อ่างเก็บน้ำหนองหลวง ซึ่งเป็นอ่างเก็บน้ำขนาดความจุ 19 ล้านลูกบาศก์เมตร โดยมีพื้นที่การใช้น้ำ 2 อำเภอ คือ อ.เวียงชัย และ อ.เมือง แต่ปัจจุบันอ่างเก็บน้ำหนองหลวงมีตื้นเขิน
คุณหญิงสุดารัตน์ ระบุว่า อ่างเก็บน้ำหนองหลวงถือเป็นแหล่งน้ำขนาดใหญ่ให้กับคนเชียงรายแต่ยังไม่ได้รับการแก้ไขศึกษาว่าจะแก้ไขปัญหาตื้นเขินอย่างไร โดยพรรคเพื่อไทยจะเร่งรัดนำปัญหาไปประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการจัดการด้านงบประมาณ และพื้นที่หนองหลวงสามารถจัดทำเป็นแก้มลิงตามแนวทางพระราชดำริของในหลวงรัชกาลที่ 9 ได้ เพื่อแก้ปัญหาภัยแล้ง น้ำท่วม และเพิ่มรายได้ให้กับเกษตรกร จึงอยากให้รัฐบาลช่วยเร่งรัดแก้ปัญหาดังกล่าวและประกาศให้ จ.เชียงรายเป็นพื้นที่ภัยแล้ง เพื่อให้เกษตรกรได้รับเงินชดเชยจากการไม่สามารถเพาะปลูกพืชผลการเกษตร เพราะ จ.เชียงรายเกิดปัญหาภัยแล้งมากว่า 5 เดือนแล้ว