นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด คณะทำงานสื่อสารการเมืองพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีนัดประชุมรัฐสภา เพื่อโหวตเลือกนายกฯ วันที่ 5 มิ.ย.ว่า จนถึงขณะนี้ทุกฝ่ายทราบดีว่าการเดินสายฟอร์มรัฐบาลของพรรคพลังประชารัฐ อุปสรรคขวากหนามมากมายเหลือเกิน ยิ่งคิดติดกรอบแบบทหาร ยิ่งทำให้พรรคที่จะไปร่วมต้องคิดหนัก ว่าไปแล้ว จะเป็นการพายเรือให้ใครนั่ง หรือ เป็นเพียงนั่งร้านเสริมฐานการสืบทอดอำนาจหรือไม่ การให้ความเคารพต่อเสียงประชาชนและการให้เกียรติพรรคการเมืองที่ประชาชนเลือกมานั้นเป็นสิ่งสำคัญ แต่กลับหาได้ยากในทีมเจรจาตั้งรัฐบาลของพรรคพลังประชารัฐ ยิ่งมีแนวคิดฮุบกระทรวงสำคัญ แล้วคายกระทรวงงานยากให้พรรคร่วม ยิ่งบีบให้การเจรจาต่อรองถึงทางตันเร็วขึ้น 

พรรคขนาดกลางที่คิดว่าพรรคตัวเองสำคัญ เอาเข้าจริงมุมมองของฝ่ายสืบทอดอำนาจ น่าจะให้น้ำหนักและความสำคัญไปที่ 250 ส.ว.มากกว่า ถึงขั้นออกมาเชียร์ให้เดินหน้าตั้งรัฐบาลเสียงข้างน้อยไปเลย ถึงแพ้โหวตอภิปรายไม่ไว้วางใจ ก็ให้ 250 ส.ว.ยกมือให้กลับมาเป็นนายกฯ ได้ใหม่อีกที ไม่มีปัญหา อยู่ครบวาระ 4 ปีแน่นอน

ดังนั้น พรรคใดไปหาเสียง ไปประกาศกับประชาชนไว้อย่างไร หลังเลือกตั้งก็ต้องทำอย่างนั้น ยิ่งสภาพการณ์ที่รัฐบาลหน้าจะอายุสั้น ประชาชนจะจำแม่น และรอเวลาสั่งสอนนักการเมือง พรรคการเมืองที่ไม่มีจุดยืน พูดอย่าง ทำอย่าง ยิ่งพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา อยู่สืบทอดอำนาจนานๆ ยิ่งเป็นผลดีกับฝ่ายต่อต้านการสืบทอดอำนาจ ค่อนข้างชัดเจนว่าเสียงของฝ่ายต่อต้านการสืบทอดอำนาจในการเลือกตั้งครั้งหน้าจะเพิ่มขึ้นอย่างมากมายแน่นอน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง :

• มติกก.บห.'ชาติไทยพัฒนา' ร่วมรัฐบาล 'พลังประชารัฐ' โหวต 'ประยุทธ์' เป็นนายกฯ
• ‘อนุทิน’ อ้าแขนรับ พปชร. ยกขันหมากขอ 'ภูมิใจไทย' ร่วมรัฐบาล