ไม่พบผลการค้นหา
โรงพยาบาลที่ใหญ่ที่สุด 2 แห่งในฉนวนกาซา ได้หยุดรับผู้ป่วยรายใหม่ เนื่องจากการทิ้งระเบิดของอิสราเอลและการขาดแคลนยาและเชื้อเพลิงที่เกิดขึ้นในฉนวนกาซา ท่ามกลางตัวเลขการรายงานผู้เสียชีวิตที่เพิ่มขึ้นในหมู่ผู้ป่วยและเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์

โรงพยาบาลอัลชิฟะห์ และโรงพยาบาลอัลกุด โรงพยาบาล 2 แห่งที่ใหญ่ที่สุดในฉนวนกาซา กล่าวเมื่อวันอาทิตย์ (12 พ.ย.) ว่า โรงพยาบาลทั้ง 2 แห่งได้ระงับการดำเนินงาน ในขณะที่องค์การอนามัยโลก (WHO) เรียกร้องให้มีการหยุดยิงทันทีเพื่อป้องกันการเสียชีวิตที่เพิ่มขึ้น จากเหตุการณ์การโจมตีในอิสราเอล

นพ.ไนดาล อาบู ฮาดรุส ศัลยแพทย์ระบบประสาทของโรงพยาบาลอัลชิฟะห์ กล่าวว่า ผู้ป่วยและเจ้าหน้าที่ในโรงพยาบาลกำลังเผชิญกับสถานการณ์ที่เป็น “หายนะ” หลังจากโรงพยาบาลไม่มีไฟฟ้าหรือน้ำประปาใช้ และไม่มีทางออกของโรงพยาบาลที่ปลอดภัย “มันเป็นอยู่อย่างนี้ได้ไม่นาน มีความจำเป็นที่จะต้องมีการแทรกแซงอย่างเร่งด่วน เพื่อช่วยเจ้าหน้าที่และผู้ป่วย” อาบู ฮาดรุส ระบุกับสำนักข่าว Al Jazeera

นอกจากนี้ โรงพยาบาลคามาล อัดวาน ซึ่งตั้งอยู่บนพื้นที่ทางตอนเหนือของฉนวนกาซา ยังได้ระงับการดำเนินงานเช่นกัน โดย อาห์เหม็ด อัล-คาห์ลูต์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาล ระบุกับสำนักข่าว Al Jazeera ว่า เครื่องกำเนิดไฟฟ้าหลักของโรงพยาบาลขาดเชื้อเพลิงในการผลิตกระแสไฟฟ้า

ทีโดรส อัดฮานอม เกเบรเยซุส ผู้อำนวยการใหญ่ WHO กล่าวว่าสถานการณ์ที่โรงพยาบาลอัลชิฟะห์ “เลวร้ายและอันตราย” พร้อมระบุว่า “โลกไม่สามารถนิ่งเงียบได้ในขณะที่โรงพยาบาลซึ่งควรเป็นสถานที่หลบภัย กำลังถูกเปลี่ยนให้กลายเป็นฉากแห่งความตาย ความหายนะ และความสิ้นหวัง”

หน่วยงานบรรเทาทุกข์ของสหประชาชาติในดินแดนปาเลสไตน์ที่ถูกยึดครอง ระบุในการรายงานความคืบหน้าล่าสุดเมื่อวันอาทิตย์ว่า มีพยาบาล 3 คนถูกสังหารที่โรงพยาบาลอัลชิฟะห์ นับตั้งแต่วันศุกร์ที่ผ่านมา (10 พ.ย.) ท่ามกลางการโจมตีและการปะทะกันของกองทัพอิสราเอลใกล้โรงพยาบาล 

นอกจากนี้ ตามการระบุของหน่วยงานสหประชาชาติ มีการพบผู้ป่วย 12 ราย ซึ่งรวมถึงทารกที่คลอดก่อนกำหนด 2 ราย เสียชีวิตเช่นกัน นับตั้งแต่เกิดเหตุไฟฟ้าดับ ในขณะที่โครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญของโรงพยาบาล รวมถึงศูนย์หัวใจและหลอดเลือด และแผนกสูติกรรม ยังได้รับความเสียหายอย่างหนัก ทั้งนี้ กระทรวงสาธารณสุขของฉนวนกาซาระบุว่า มีเด็กทารกแรกเกิด 3 รายเสียชีวิต

WHO ระบุว่ามีผู้ป่วย 600-650 ราย เจ้าหน้าที่สาธารณสุข 200-500 ราย และผู้พลัดถิ่นภายในประเทศประมาณ 1,500 ราย ที่ยังคงอยู่ที่โรงพยาบาลโดยไม่มีทางออกที่ปลอดภัย โดยตามการระบุของกระทรวงสาธารณสุขในเขตปกครองของฮามาสชี้ว่า ในจำนวนผู้ป่วยทั้งหมดยังรวมถึงทารก 36 ราย ที่เสี่ยงต่อการเสียชีวิต เนื่องจากขาดตู้อบที่ใช้งานได้ 

ปัจจุบันนี้ กองทัพอิสราเอลได้ปิดล้อมสถานพยาบาลในพื้นที่ทางตอนเหนือของฉนวนกาซา รวมถึงโรงพยาบาลอัลชิฟะห์ ซึ่งเจ้าหน้าที่อิสราเอลอ้างว่าเป็นที่ตั้งของศูนย์บัญชาการกลุ่มฮามาส อย่างไรก็ดี กลุ่มฮามาสและเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลปฏิเสธว่า กลุ่มอาคารโรงพยาบาลแห่งนี้ไม่ได้เป็นที่ซ่อนของโครงสร้างพื้นฐานทางการทหารใดๆ

เจ้าหน้าที่ชาวปาเลสไตน์และผู้คนในโรงพยาบาลรายงานว่า กองกำลังอิสราเอลมุ่งเป้าการโจมตีไปที่โรงพยาบาลโดยตรงด้วยอาวุธกระสุนและสไนเปอร์ ในขณะที่เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา กองทัพอิสราเอลเสนอที่จะทำการอพยพทารกแรกเกิด และเผยแพร่ภาพวิดีโอการส่งมอบเชื้อเพลิงปริมาณ 300 ลิตรไว้ที่ทางเข้าโรงพยาบาล อย่างไรก็ดี ผู้อำนวยการโรงพยาบาลอัลชิฟะห์ระบุว่า ภาพดังกล่าวเป็นเพียงแค่ “โฆษณาชวนเชื่อ” ของอิสราเอล


ที่มา:

https://www.aljazeera.com/news/2023/11/13/gazas-two-biggest-hospitals-cease-operations-as-who-warns-of-rising-deaths?fbclid=IwAR2BQiIk0pU_poGqdcurJcqwz6848RPjiVf51tH-SBfNxB8_3x5uiaBrfZI