วันที่ 5 ต.ค. เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เดินทางมาตรวจเยี่ยมและมอบนโยบายแก่ ผู้บริหารสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ 

ฉัตรชัย พรหมเลิศ ประธาน ปปง. กล่าวรายงานช่วงต้นว่า สำนักงาน ปปง.ตั้งมา 24 ปี นายกฯเศรษฐาเป็นคนแรกที่จะมากำกับดูแล ปปง.ด้วยตนเอง ซึ่งถือเป็นการสร้างความมั่นใจให้กับประชาชนและเป็นขวัญกำลังใจให้กับเจ้าหน้าที่ เพราะการทำงานของ ปปง.อยู่ภายใต้ความกดดัน ส่วนงบประมาณ ปปง.มี 432 ล้าน โดยที่ผ่านมามีการยึดทรัพย์ไปแล้วกว่า 8.2 หมื่นล้าน ขณะนี้อยู่ระหว่างดำเนินการ กว่า 6 พันล้าน 

เศรษฐา ให้สัมภาษณ์หลังการมอบนโยบาย ปปง. ว่า สำนักงาน ปปง. ขึ้นตรงกับนายกรัฐมนตรีอยู่แล้ว ซึ่งประธาน ปปง. ก็บอกว่าตนเป็นนายกฯคนแรกที่มาเยี่ยมและมอบนโยบาย หน่วยงานนี้มีความสำคัญ เพราะเชื่อมโยงกับความมั่นคง อีกทั้งธุรกิจสีเทาโดยเฉพาะธุรกรรมทางการเงิน เป็นองค์ประกอบใหญ่ที่ขยายตัวรวดเร็ว ฉะนั้น ปปง. จึงเป็นหน่วยงานสำคัญ ในการยึกทรัพทย์ เพื่อทำลายต้นตอของปัญหาหลายๆ อย่างวันนี้มาให้กำลังใจ และมอบนโยบายว่า ต้องทำงานรวดเร็ว กระชับ และยึดหลักนิติธรรม สิทธิมนุษยชนก็สำคัญ แต่การบังคับใช้กฎหมายต้องโปร่งใสชัดเจนตรวจสอบได้ 

เมื่อถามว่า ที่ประธาน ปปง. รายงานว่ากำลังอยู่ในระหว่างยึดทรัพย์กว่า 6 พันล้านบาท จะทำได้ทั้งหมดหรือไม่ เศรษฐา กล่าวว่า สำนักงาน ปปง. มั่นใจจะสามารถทำได้ วันนี้จึงมากำชับต้องทำอย่างรวดเร็ว พร้อมยอมรับว่าอาจมีการกำหนดกรอบเวลาในดำเนินงานตรวจสอบเส้นทางการเงิน เพราะทุกอย่างต้องมีหน่วยชี้วัดการทำงาน รวมถึงไทม์ไลน์ที่ชัดเจน 

เมื่อถามว่า ก่อนหน้านี้ ปปง. มีข้อครหาเรื่องความโปร่งใสเกี่ยวกับผู้บริหาร รัฐบาลจะดึงความเชื่อมั่นกลับมาอย่างไร เศรษฐา บอกว่า เรื่องนี้ต้องให้เกียรติกับเจ้าหน้าที่ด้วย อย่าพูดเช่นนั้นเลย และที่ตนมาพูดวันนี้ทุกคนคงจะเข้าใจ ถึงกรณีที่สังคมกังขา พร้อมย้ำว่าอยากให้ทุกคนทำงานอย่างสุจริต รอบคอบ รวดเร็ว ขอให้รอดูต่อไป และตนเชื่อว่าประสิทธิภาพการทำงานก็จะดีขึ้น ข้อครหาก็จะลดน้อยลง