ไม่พบผลการค้นหา
ใบปอ รัตติยา นักร้องสาวเจ้าของฉายา 'ราชินีรถแห่' เบอร์หนึ่งของเมืองไทย จากนิสิตคณะสิ่งแวดล้อม มหาวิทยาลัยสารคาม ที่จบปริญญาตรีแล้วขอตามหาฝันด้วยการร้องเพลง จากนักร้องหมอลำซิ่ง ขี่มอเตอร์ไซค์ข้ามจังหวัดแลกค่าตัว 500 บาท สู่หลักแสนบาทในวันนี้

ถ้าพูดถึง ‘รถแห่ดนตรีสด’ ทางภาคอีสาน ชื่อนักร้องอันดับต้นๆ นอกจาก ออย แสงศิลป์ นักร้องหนุ่ม ราชารถแห่ ก็ต้องมีชื่อนี้ ‘ใบปอ รัตติยา’ เจ้าของฉายา ราชินีรถแห่ แห่ง 'รถแห่ออดิโอ มหาสารคาม' ที่ติดอันดับมาแรง

ความนิยมของ ใบปอ ไม่ได้มาแบบฟลุกๆ แต่เต็มเปี่ยมไปด้วยความสามารถ แบบที่เรียกว่า “เกิดมาเพื่อสิ่งนี้” กล้าเล่น กล้าโชว์ อีกทั้ง ยังมีทีมแบ็กอัพที่ดี ในการแท็คทีมทำงาน สายรถแห่ภาคอีสานเป็นหน้าที่ของ “ทีมออดิโอ” รับงาน งานเดินสายแสดงคอนเสิร์ตใน กทม. ภาคกลาง เหนือ ใต้ ออก ตก มี “ไหทองคำเร็คคอร์ด” ของ “นายห้างประจักษ์ชัย ไหทองคำ” รับหน้าที่ขายความมัน ม่วน แซ่บ ยิ่งทำให้กระแสความนิยมใบปอในวัย 28 ปี ย่าง 29 ปี แพร่ขยายเป็นวงกว้าง ยกนิ้วให้เป็น “ราชินีรถแห่เบอร์หนึ่งของเมืองไทย” ชั่วโมงนี้ 

ใบปอ รัตติยา

‘ใบปอ รัตติยา’หรือ รัตติยา พลเสน เป็นคนจังหวัดนครราชสีมา เกิดในครอบครัวที่มีฐานะปานกลาง คุณพ่อและคุณแม่รับงานประดิษฐ์จิลเวลรี่ แต่เธอและคุณแม่ต้องเจอกับบททดสอบจากสวรรค์ เมื่อคุณพ่อซึ่งเป็นหัวเรี่ยวหัวแรงหลักของครอบครัว เสียชีวิตตอนเธอมีอายุได้ 6 ขวบ

เธอเล่าความลำบากในช่วงชีวิตนั้นให้ฟังว่า “พอพ่อไม่อยู่ครอบครัวเราก็เริ่มลำบาก อยู่กับปู่ ย่า แม่เลี้ยงหนูกับน้องชาย หารายได้ด้วยการขายของ ขายส้มตำ ขายกับข้าว ตามหมู่บ้าน และงานบุญต่างๆ แต่หนูมีเป้าหมายชัดเจนตั้งแต่เด็กว่า ในฐานะลูกสาวคนโตต้องพาครอบครัวออกจากฝันร้าย ใช้ความสามารถ ใช้เรี่ยวแรงทุกหยาดเหงื่อเพื่อหาเลี้ยงแม่ และน้องชายได้กินอิ่มนอนอุ่น”

ด้วยความรักในการร้องเพลง ทำให้เธอ ค่อยๆฝึกฝน ๆ ไปประกวดตามที่ต่างๆ และนำความชอบนี้มาสร้างรายได้ ดูแลครอบครัว

“หนูชอบร้องเพลงตั้งแต่เด็ก ชอบเพลงของ แม่ผึ้ง-พุ่มพวง ดวงจันทร์ เมื่อก่อนร้องเพลงไทยลูกทุ่ง ร้องหมอลำ ร้องแบบวาไรตี้ไม่เป็น ตอนป.4 เป็นตัวแทนโรงเรียนไปประกวดร้องเพลงได้ที่ 1 เวลามีงานหมู่บ้านผู้ใหญ่ก็เชียร์ให้ร้องตลอด ตอนเรียนมัธยมก็เป็นนักร้องประจำวงของโรงเรียน ก็คิดว่าเมื่อมีความสามารถด้านนี้ ก็อยากใช้ในสิ่งที่เรามีที่เราชอบดูแลครอบครัว มาเริ่มร้องหมอลำตอนที่เรียนมหาวิทยาลัยมหาสารคาม คณะสิ่งแวดล้อม และทรัพยากรศาสตร์ สาขาเทคโนโลยีสิ่งแวดล้อม"

"อันที่จริงอยากเรียนร้องหมอลำตั้งแต่ตอนมัธยมแล้วแต่ที่บ้าน ปู่ ย่า ไม่สนับสนุน คือ ท่านสนับสนุนให้เป็นนักร้องแต่ไม่สนับสนุนให้เป็นนักร้องหมอลำ เพราะเห็นว่าชุดนุ่งสั้นและกลัวจะเดินสายจนเสียการเรียน ตอนเรียนปริญญาตรีก็แอบไปเรียน พอมีวิชาติดตัวก็รับงานหมอลำซิ่งควบคู่กันไปด้วย โดยใช้ชื่อว่า ใบปอ-รัตติยา เมืองย่าโม ทำมาเรื่อยๆ ก่อนบอกที่บ้านตอนเรียนปี 3” 

ใบปอ รัตติยา.jpg

เส้นทางศิลปินไม่มีพรมแดงปูให้เดิน ก่อนก้าวขึ้นมาเป็นขวัญใจรถแห่ ใบปอ ไต่ระดับจากนักร้องหมอลำซิ่ง ขี่มอเตอร์ไซค์ไปข้ามจังหวัด ไปร้องหมอลำแลกค่าตัว 500 บาท 

“งานแรกที่รับได้ค่าตัว 500 บาท ขี่มอเตอร์ไซค์จากจังหวัดมหาสารคามไปที่จังหวัดกาฬสินธุ์ ถามว่าคุ้มไหมสำหรับหนูคุ้มนะ เติมน้ำมันรถ 500 บาท งานต่อๆ มา ก็เริ่มได้ทิปหน้าเวที 700-2,000 บาท แล้วก็ไปรับจ้างเติมเงินมือถือออนไลน์ ได้วันละ 120 บาท เหนื่อยแต่มีความสุขมาก หาเงินส่งตัวเอง ส่งน้องเรียน ได้แบ่งเบาภาระคุณแม่” 

หลังก้าวออกจากรั้วมหาวิทยาลัย ใบปอ ตั้งใจใช้ใบปริญญาตรี เป็นไปเบิกทางนำความสำเร็จมาสู่ชีวิต ด้วยการไปสมัครทำงานบริษัทจิลเวลรี่เดียวกับคุณแม่ และเป็นครูสอนหนังสือโรงเรียนเอกชน ก่อนมีความคิดตกผลึกว่า “ไม่ควรหนีตัวเอง” 

ในเมื่อรักและศรัทธาอาชีพร้องเพลง ควรนำตรงนี้มาใช้หาเลี้ยงชีพ พัฒนาตนเองให้เป็นที่ยอมรับ นั่นถือว่าเป็นความท้าทาย 

“เป็นครูสอนโรงเรียนเอกชน สอน 5 วิชาหลักเด็กปฐมวัย วันหยุดเสาร์-อาทิตย์ ก็กลับอีสานมาลำซิ่ง ได้ปีกว่าๆ เกิดความคิดอยากเลือกทางเดินให้ชัดเจน ชอบร้องเพลง รักการร้องเพลง จึงตัดสินใจลาออกกลับมาที่จังหวัดมหาสารคาม มารับงานร้องเพลงเต็มตัว ร���้จักกับพี่ที่เป็นเจ้าของรถแห่ทีมออดิโอ มหาสารคาม เดิมทีเขาทำเวทีเครื่องเสียง พอเขามาทำรถแห่ก็ชักชวนให้มาเป็นนักร้องรถแห่ เป็นยุคบุกเบิกเริ่มจ้างไม่มีใครรู้จัก ได้ค่าจ้างวันละ 1 พันบาท ร้อง 3 ชั่วโมง แรกๆ งานไม่เยอะ มี 5-6 งานต่อเดือน แต่งานลำซิ่งจะมีแทบทุกวัน” 

ใบปอ รัตติยา

ใบปอ ยังใช้สื่อโซเชี่ยลเรียกเรตติ้ง สะสมแฟนคลับ ด้วยการนำผลงานการแสดงสด แบบถึงไหนถึงกัน ไปเผยแพร่ในยูทูบ และอัพเดทความเคลื่อนไหวในเฟซบุ๊ก ยิ่งเป็นการเรียกแขกให้เข้ามาสัมผัสบรรยากาศแดนซ์แห่กันแบบเรียลลิตี้

ที่พีคสุดๆ คือการนำเพลงอินดี้ที่มีกระแสความนิยมล้นหลามของนักร้องผู้ชายมาคัฟเวอร์ในสไตล์นักร้องหญิงสายแซ่บ โดยเฉพาะเพลง 'ห่อหมกฮวกไปฝากป้า' ยิ่งทำให้ยอดแฟนคลับติดตามพุ่งพรวด ค่าตัวจากหลักร้อยหลักพันอัพเลเวลขึ้นมาอยู่ที่หลักหมื่นเรียบร้อยแล้ว 

อย่างเมื่อเร็วๆ นี้ มีการปิดวิก “ลำไย ไหทองคำ” ราชินีอินดี้ ปะทะ “ใบปอ รัตติยา” ราชินีรถแห่” ที่นวนคร มีวัยรุ่นตีตั๋ว 150 บาท เข้ามาดิ้นกันเรือนหมื่น

ใบปอ รัตติยา
  • ลำไย ไหทองคำ, ใบปอ รัตติยา

“หนูว่าการที่เอาเพลงนักร้องผู้ชายมาคัฟเวอร์ในรูปแบบของหนู คือจุดที่ทำให้พีคสุดๆ ทำให้มีงานทุกวันเจ้าภาพแย่งกัน อย่างน้อยหนึ่งวันต้องมี 2 คิว บ่าย และกลางคืน มากสุดก็ 5-6 งานต่อหนึ่งวัน ส่วนตัวเองมีทั้งรถแห่ ลำซิ่ง และคอนเสิร์ต รถแห่ค่าตัวก็ยังหลักพันนะคะ แต่หมอลำซิ่ง และคอนเสิร์ตตอนนี้หลักหมื่น” 

“เวลาโชว์หนูเน้นความเป็นตัวเอง เต็มที่กับทุกงาน ไม่ได้ตีกรอบว่าเราต้องเป๊ะเหมือนแผ่น เน้นเรียลลิตี้ หยอกล้อกับคนดู รู้สึกตลกก็หัวเราะใส่ไมค์ออกไปดังๆ เลย”

คุณค่าของคนไม่ได้วัดกันที่ความสวย ไม่ได้ขึ้นอยู่กับฐานะรวย หรือหน้าที่การงานตำแหน่งใหญ่โต ใบปอไม่สนใจใครจะมองว่าเป็นนักร้องเต้นกินรำกินบนรถแห่ ตรงกันข้าม กลับรู้สึกภูมิใจกับอาชีพนี้ ทำให้เธอก้าวขึ้นมาเป็นหัวเรี่ยวหัวแรงดูแลครอบครัวได้ด้วยลำแข้งของตนเอง จากเด็กกะโปโลหาเงินได้วันละ 4 หมื่นบาท ถึง 1 แสนบาท ต่อวัน 

“หนูว่าคุณค่าของคนไม่ได้มาจากการตัดสินใจของคนอื่นนะ อยู่ที่ตัวเราเป็นหลัก สิ่งที่คนอื่นมองจะเห็นค่าของเราหรือไม่นั้น เราไม่สามารถไปกำหนดเขาได้ อยู่ที่ตัวเราทำสิ่งดีๆ ไม่ว่าจะเป็นผลงาน การปฏิบัติตัวที่ดีต่อผู้อื่นต่างหาก คนเราไม่มีค่าหรอก ถ้าเราไม่เห็นว่าตัวเองมีคุณค่า มองสิ่งที่เรารักและทำ ด้อยกว่าคนอื่น คนเรามีคุณค่าอยู่เสมอ อยู่ที่วิธีคิดให้รอบคอบและพัฒนาตนเองอย่างจริงจัง”

 

“ภูมิใจกับสิ่งที่เป็นในวันนี้มาก ทุกหยาดเหงื่อแรงกายไม่ได้ทำเพื่อหนูคนเดียว ใช้ดูแลครอบครัวให้มีฐานะความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น จากเด็กกะโปโล ขยับขึ้นมาเป็นเสาหลักครอบครัวทำหน้าที่แทนพ่อได้อย่างที่ตั้งใจ ซื้อรถไว้ใช้ทำงาน และให้ความสะดวกกับการเดินทางของคนในบ้าน และตั้งใจจะซื้อที่เพื่อปลูกบ้านให้แม่”


“ใครจะมองว่าเต้นกินรำกินไร้เกียรติไร้ศักดิ์ศรี อันนี้ห้ามเขาไม่ได้ แต่สำหรับหนูมันเป็นอาชีพสุจริต ไม่ได้คดโกงใคร ในความรู้สึกหนูคนที่มีฐานะร่ำรวย มีหน้าที่การงานตำแหน่งใหญ่โต แต่คดในข้องอในกระดูก ดูถูกคน ไม่มีศักดิ์ศรี และไม่ควรได้รับเกียรติมากกว่า นักร้องอยู่บนเวทีพูดจาสองแง่สามง่าม ทะเล้น ทะลึ่ง แต่มันเป็นการแสดง ลงจากเวทีมาหนูก็เป็นคนเคารพนบน้อมผู้ใหญ่ รู้จักกาลเทศะ รู้ว่าอะไรควรพูดไม่ควรพูด ไม่ดูถูกใครประหยัดไม่ฟุ่มเฟือย ใส่เสื้อผ้าตลาดนัด กินง่ายอยู่ง่าย” 

นอกจากภูมิใจในอาชีพ ไม่ได้รู้สึกต่ำต้อยด้อยค่าแล้ว ใบปอ ยังมองว่า “นักร้อง” เป็นอาชีพที่ได้บุญใหญ่อีกด้วย ช่วยเอ็นเตอร์เทนให้ผู้คนมีความสุข ได้ปลดปล่อยตัวเองจากสิ่งแวดล้อมตึงเครียด

ใบปอ รัตติยา

ปัจจุบัน การแสดง รถแห่ดนตรีสด เป็นที่นิยม จากเจ้าภาพ และนักจัดงานบันเทิงกลางแจ้งอย่างมาก ด้วยเหตุผลที่ดีกว่าจ้างวงดนตรีหมอลำ ตรงที่ไม่ต้องติดตั้งเวทีแสง สี เสียง ทุกอย่างบรรจุอยู่ในรถหกล้อ นอกจากงานบุญงานบวชงานรื่นเริง ทั่วภาคอีสานเรียกใช้บริการ ยังเคลื่อนที่สัญจรสร้างปรากฏการณ์ในเมืองหลวง และเริ่มแพร่กระจายไปตามภาคกลาง และภาคตะวันออก ยิ่งขยับนำเอานักร้องอินดี้มาประชันลูกคอยิ่งเรียกแขก กลุ่มวัยรุ่นขาเด้ง เข้ามาสัมผัสโลกความมันแบบไร้ขีดจำกัด 

ขอบคุณภาพประกอบจาก เฟซบุ๊ก ใบปอ รัตติยา