ไม่พบผลการค้นหา
สปสช.เปิดข้อมูล 'กองทุนบัตรทอง กรณีโควิด 19' หน่วยบริการทั่วประเทศทยอยส่งเบิกค่าใช้จ่ายแล้วรวมกว่า 143 ล้านบาท ทั้งค่าบริการคัดกรอง ค่ารักษาพยาบาลผู้ป่วยนอก และผู้ป่วยใน

นพ.ศักดิ์ชัย กาญจนวัฒนา เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) กล่าวว่า ตามที่คณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (บอร์ด สปสช.) โดยมีนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธาน ได้บรรจุให้การรักษาพยาบาลและดูแลประชาชนกรณีโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ โควิด-19 เป็นสิทธิประโยชน์ภายใต้ "กองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ" หรือกองทุนบัตรทอง ที่ครอบคลุมทั้งการคัดกรองสำหรับผู้ป่วยทุกสิทธิ และการดูแลผู้ป่วยในและผู้ป่วยนอกสำหรับประชาชนสิทธิบัตรทอง โดยได้จัดสรรงบประมาณการดูแลที่แยกออกจากงบกองทุนบัตรทองในระบบปกติจำนวน 4,280 ล้านบาท ที่ได้จากเงินรายได้สูง (ต่ำ) กว่าค่าใช้จ่ายสะสม กองทุนบัตรทองจำนวน 1,020 ล้านบาท และงบกลางโดยรัฐบาล จำนวน 3,260 ล้านบาท

จากข้อมูลการเบิกจ่ายในระบบกองทุนบัตรทองเมื่อวันที่ 30 เม.ย. ที่ผ่านมา หน่วยบริการทั่วประเทศได้เริ่มทยอยส่งเรื่องเบิกค่าใช้จ่ายแล้ว รวมเป็นจำนวนทั้งสิ้น 143.9 ล้านบาท โดยเป็นค่าใช้จ่ายในการตรวจคัดกรองและตรวจทางห้องปฏิบัติการและค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลผู้ป่วย

นพ.ศักดิ์ชัย กล่าวว่า การเบิกจ่ายค่าตรวจคัดกรองและตรวจทางห้องปฏิบัติการมีจำนวน 33,731 ครั้ง เบิกจ่ายเป็นจำนวน 119.2 ล้านบาท ส่วนที่เหลือเป็นค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลผู้ป่วยโควิด 19 จำนวน 24.7 ล้านบาท

"ข้อมูลข้างต้นเป็นการเบิกจ่ายกรณีโควิด-19 ที่หน่วยบริการได้เริ่มทยอยเบิกจ่ายเข้ามาที่ สปสช.จากหน่วยบริการทั่วประเทศทั้งในส่วนภาครัฐและเอกชน ซึ่งได้ร่วมมือกันในการดูแลผู้ป่วยและประชาชนในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อโควิด 19 ช่วยให้ประชาชนเข้าถึงบริการอย่างทั่วถึงทั้งในส่วนของการรักษาพยาบาลและคัดกรอง ที่เป็นส่วนสำคัญในการควบคุมและลดการแพร่ระบาดของโรคได้" เลขาธิการ สปสช. กล่าว