ไม่พบผลการค้นหา
ภาคีเครือข่ายนักศึกษามหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ออกแถลงการณ์เรียกร้องลดค่าธรรมเนียมการศึกษาถ้วนหน้า 30 เปอร์เซ็นต์ จี้ฝ่ายบริหารเปิดทางผู้ปกครอง-นักศึกษาร่วมกำหนดทิศทางช่วงวิกฤตโควิด

เครือข่ายนักศึกษามหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ออกแถลงการณ์เรื่องการเรียกร้องลดค่าธรรมเนียมการศึกษาถ้วนหน้า 30 เปอร์เซ็น โดยมีเนื้อหาระบุว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพนั ธุ์ 2019 หรือไวรัสโควิด-19 ในช่วงหลาย เดือนที่ผ่านมาส่งผลกระทบในวงกว้างทั่วประเทศไทย และได้ออกมาตรการเพื่อป้องการแพร่ระบาดของไวรัส ซึ่งมาตรการดังกล่าวส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจ อาทิธุรกิจห้างร้าน สถานบริการและกิจการส่วนตัว ต้องปิดกิจการหรือลดจำนวนการจ้างงานลงก่อให้เกิดภาวะตกงานประชาชนขาดรายได้ใ้นการยังชีพ

ท่ามกลางวิกฤตประชาชนต้องเผชิญหน้ากับปัญหาทางเศรษฐกิจอันหนักหน่วง แม้ว่ารัฐบาลได้ ดำเนินมาตรการเยียวยาผู้ได้ร้บผลกระทบบ้างแล้ว แต่มาตรการช่วยเหลือมีความล่าช้าและไม่เพียงพอต่อการบรรเทาความเดือดร้อน ประกอบกับภาระค่าใช้จ่ายที่เพิ่มสูงข้ึน ขณะที่รายได้กลับลดลงทำให้ค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับการศึกษา กลายเป็นภาระที่หนักหนาสาหัสสำหรับครอบครัวชนช้ันกลางระดับล่าง ซ่ึงเป็นประชากรส่วนใหญ่ของมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ที่ต้องแบกรับ

เครือข่ายนักศึกษามหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ประกอบด้วย กลุ่มนักศึกษาบัณฑิตศึกษาระดับปริญญาโท-เอกภาควิชาสังคมวิทยาและมานุษยวิทยา, สมัชชาเสรีประชาธิปไตยแห่งมหาวิทยาลัยเชียงใหม่, พรรคนักศึกษายุวธิปัตย์มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ชมรมประชาธิปไตยสโมสรนักศึกษามหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ศิษย์เก่าและนักศึกษาจำนวน 1,364 คน จึงใคร่ขอเสนอให้มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ดำเนินการลดค่าธรรมเนียม การศึกษาลง 30 เปอร์เซ็นต์ จากค่าธรรมเนียมการศึกษาเดิมต้ังแต่ภาคการศึกษาฤดูร้อน (2562) เป็นต้นไป

โดยให้เป็นนโยบายกลางที่กำหนดจากมหาวิทยาลัย เป็นมาตรการบรรเทาความเดือดร้อนอย่างเท่าเทียมและถ้วนหน้าแก่นักศึกษาทุกคน ท้ังน้ีการเรียนในปัจจุบันต่างก็เข้าสู่ระบบออนไลน์ทั้งสิ้นแล้ว และนักศึกษาไม่สามารถเข้าใช้บริการต่างๆ ที่ให้โดยมหาวิทยาลัยการลดค่าธรรมเนียมการศึกษาลงในอัตราดังกล่าวจึงถือว่าสมเหตุสมผลแล้ว

เปิด 3 ข้อเรียกร้อง

จากการที่ที่ประชุมคณะกรรมการบริหารมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ (กบม.) ได้มีมติที่ประชุมออกมาเมื่อวันที่ 21 เม.ย. 2563 ยืนยันในมาตรการเดิมของมหาวิทยาลัย ในการที่ลดค่าธรรมเนียมการศึกษาลง 10 เปอร์เซ็น โดยจะจัดสรรทุนให้เปล่าเฉพาะนักศึกษาที่มีปัญหา และจัดตั้งกองทุนให้ยืมเงิน 250 ล้านบาทน้ัน ทางเครือข่ายนักศึกษาขอแสดงจุดยืนในการคัดค้านมติดังกล่าว ด้วยข้อคิดเห็นสำคัญดังต่อไปน้ี

1.การที่คณะผู้บริหารฯ อ้างว่า การลดค่าธรรมเนียมการศึกษาจำนวน 10 เปอร์เซ็นต์ น้ัน เป็นการที่มหาวิทยาลัยยึดตามมติที่ประชุม โดยทางเครือข่ายนักศึกษามีความเห็นว่ามติที่ประชุมทปอ.นั้นกำหนดให้ลดค่าธรรมเนียมการศึกษาลงในอัตรา 10 เปอร์เซ็น "เป็นอย่างน้อย" ทั้งน้ีให้ข้ึนกับสภาพและเงื่อนไขของแต่ละมหาวิทยาลัยไปพิจารณา เมื่อพิจารณาจากข้อเท็จจริงที่ว่า นักศึกษาของมหาวิทยาลยัเชียงใหม่นั้นส่วนใหญ่ มาจากครอบครัวที่ยากจน ผู้กครองของนักศึกษาส่วนใหญ่มีฐานะปานกลางไปจนฐานะที่ยากจน การต้องเผชิญกับภาวะเศรษฐกิจหยุดชะงักในปัจจุบันไดสร้างผลกระทบอย่างใหญ่หลวง ต่อการสนับสนุนการเรียน ของบุตรหลานในปัจจุบัน ตัวเลขการลดค่าธรรมเนียมการศึกษาลง 10 เปอร์เซ็น ซ่ึงถือเป็ นตัวเลขขั้นต่ำที่สุดที่ตกลงในมติทปอ. จึงถือว่าเป็นตัวเลขการลดค่าธรรมเนียมการศึกษาที่ต่ำเกินไป และไม่เพียงพอต่อการช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อนให้กับนักศึกษาอย่างแท้เจริง

2.เครือข่ายนักศึกษาขอยืนยันในหลกัการสำคัญที่ว่า สิทธิในการเรียกร้องเพื่อการศึกษาที่เป็นธรรมน้ัน เป็นสิทธิข้ันพ้ืนฐานของนักศึกษาในฐานะที่เป็นเจ้าของมหาวิทยาลัยที่แท้จริง มหาวิทยาลัยน้ัน ถูกจัดตั้งข้ึนก็เพื่อประโยชน์แก่นักศึกษาและประชาชนในสังคม และการที่มหาวิทยาลัยสามารถดำรงอยู่ได้ ก็ด้วยค่าธรรมเนียมการศึกษาของนักศึกษาและด้วยยภาษีของประชาชนที่ผ่านมายังรัฐ ดอกผลใดๆที่ผลิบานออกมาจากการลงทุนในสินทรัพย์ต่างๆ ล้วนมาจากเงินตราเหล่าน้ีทั้งสิ้น ในแง่น้ีมหาวิทยาลัยจึงเป็นสมบัติ ส่วนรวมของประชาชนและของสังคมเสียงของนักศึกษาในฐานะผู้เป็นเจ้าของ ร่วมในมหาวิทยาลัยจึงพึงถูกนับและรับฟังอย่างใส่ใจและให้ความสำคัญ โดยผู้บริหารพึ่งทำหน้าที่ในการรับผิดชอบต่อความต้อง การของนักศึกษาที่มีเหตุมีผล และใส่ใจต่อสวัสดิภาพในชีวิตของนักศึกษาผู้ซึ่งเป็นเจ้าของมหาวิทยาลัยด้วย หากบรรดาผู้บริหารเห็นว่าข้อเรียกร้องของนักศึกษาน้ัน เป็นสิ่งที่เป็นไปไม่ได้หรือไม่สมควร สิ่งท่ีผูู้บริหารพึงกระทำคือช้ีแจงให้นักศึกษาได้รับรู้ว่า เหตุใดจึงมิอาจตอบสนองต่อข้อ เรียกร้องของนักศึกษาได้อย่างมีเหตุมีผล

เป็นท่ีน่าเสียใจว่าในตลอดเวลากว่าสองสัปดาห์ที่เครือข่ายนักศึกษา เพียรพยายามนำเสนอข้อเรียกร้องต่อผู้บริหารของมหาวิทยาลัย ทางผู้บริหารสูงสุดของมหาวิทยาลัยไม่เคยเปิดโอกาสให้นักศึกษาได้เข้าแลกเปล่ียนพูดคุยหรือนำเสนอข้อคิดเห็นเลยแม้แต่น้อย เครือข่ายนักศึกษา จึงขอเรียกร้องให้อธิการบดีมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ จัดให้มีการประชุมหารืออย่างกว้างขวาง โดยเปิดโอกาสให้นักศึกษาผู้ปกครอง และผู้เกี่ยวข้องได้สามารถแสดงความคิดเห็นและนำเสนอข้อเสนอในการแก้ปัญหาความเดือดร้อน จากค่าธรรมเนียมการศึกษาและปัญหาเศรษฐกิจอ่ืนๆ อย่างแท้จริง

3.การที่คณะผู้บริหารมหาวิทยาลัยอ้างว่า หากดำเนินการลดค่าธรรมเนียมการศึกษาตามข้อเรียกร้อง เป็นจำนวน 30 เปอร์เซ็นต์น้ัน จะกระทบต่อประสิทธิภาพการเรียนการสอนโดยตรง เป็นข้ออ้างท่ีไม่ได้วางอยู่บนฐานความเป็นจริงของทรัพยากรทางเศรษฐกิจ ที่มหาวิทยาลัยมีอยู่แต่อย่างใด เพราะหากอ้างอิงตามเอกสารของสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) เมื่อปี 2562 มหาวิทยาลัยเชียงใหม่น้ันมีรายได้สูงกว่าค่าใช้จ่ายสุทธิถึง 2,375 ลา้นบาท ซ่ึงเป็นเงินจำนวนมากพอที่จะนำมาใช้ช่วยเหลือนักศึกษาได้ รายได้มหาศาลน้ีเป็นรายได้นอกงบประมาณแผ่นดิน ที่ผู้บริหารมหาวิทยาลยัสามารถที่จะบริหารจัดการเพื่อเพิ่มสัดส่วนการลดค่าธรรมเนียมการศึกษาได้

กล่าวถึงที่สุดแล้วฐานคิดของการลดค่าธรรมเนียมการศึกษาเพียง 10 เปอร์เซ็นต์ ที่คณะผู้บริหารมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ยืนยันน้ัน เป็นการด่วนสรุปตัวเลขที่มองแต่เพียงผลประโยชน์ของมหาวิทยาลัยเป็นที่ตั้งมากกว่าที่จะคำนึงถึงผลประโยชน์ของนักศึกษาเป็นสำคัญ ซึ่งข้อ เสนอของเครือข่ายนักศึกษา ขอให้ลดค่าธรรมเนียมลง 30 เปอร์เซ็นต์นั้น เพื่อทั้งมหาวิทยาลัยและทั้งนักศึกษาในฐานะหุ้นส่วนที่เสมอภาคจะสามารถอยู่รอดร่วมกันได้

สุดท้ายน้ีกลุ่มเครือข่ายนักศึกษาหวังเป็นอย่างยิ่งว่า แถลงการณ์ฉบับน้ีนอกเหนือจากเป็นการส่งเสียงไปยัง คณะผู้บริหารของมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เพื่อรับฟังเสียงของนักศึกษา อย่างตั้งใจและจริงใจแล้วยัง เป็นการส่งสาส์นไปยังเพ่ือนนักศึกษาร่วมมหาวิทยาลัย ได้ตระหนักถึงสิทธิในการศึกษาที่เป็นธรรม และสิทธิในการมีส่วนร่วมในการกำหนดทิศทางของมหาวิทยาลัย เพื่อร่วมกันเรียกร้องให้ผู้บริหารมหาวิทยาลัย ให้ทำหน้าที่สมกับการเป็นผู้ บริหารมหาวิทยาลัยอย่างเป็นธรรม และรับผิดชอบต่อนักศึกษาอุดหนุนเก้ือหนุนให้พวกเราสามารถศึกษาเล่าเรียนได้อย่างมีศักยภาพ และสำเร็จในท่ามกลางวิกฤตเศรษฐกิจในครั้งนี้

อ่านเพิ่มเติม