ยอดขายในไตรมาสแรกของปีนี้ ส่งให้ 'หัวเว่ย' กลายเป็นบริษัทผู้ผลิตสมาร์ทโฟนรายใหญ่เป็นอันดับที่ 2 ของโลก แซงหน้า 'แอปเปิล' เป็นที่เรียบร้อย ทั้งยังเป็นการเดินหน้าสู่เป้าหมายก้าวขึ้นเป็นอันดับที่ 1 ของโลก ตำแหน่งที่ 'ซัมซุง' ครอบครองมาหลายปี
บริษัทวิจัยไอดีซี ออกมาประเมินว่า ยอดการกระจายสินค้าของหัวเว่ยเติบโตขึ้นกว่าร้อยละ 50 ในช่วงปีที่ผ่านมา แม้จะได้รับผลกระทบจากการกล่าวหาเรื่องการสอดแนมของรัฐบาลจีนผ่านอุปกรณ์ของบริษัท ซึ่งหัวเว่ยออกมาปฏิเสธโดยตลอด ทั้งนี้หัวเว่ยยังเป็นแบรนด์เดียวที่สามารถขยายจำนวนการผลิตในภาพรวมตลาดที่กำลังซบเซาต่อเนื่องถึง 6 ไตรมาสได้
เมื่อเปรียบเทียบยอดขายของ 3 บริษัท ซัมซุง หัวเว่ย และแอปเปิล ตามข้อมูลของไอดีซี พบว่า ในไตรมาส 1/2562 ซัมซุงมีส่วนแบ่งตลาดอยู่ที่ร้อยละ 23.1 ตามมาด้วยหัวเว่ยที่ร้อยละ 19.0 และแอปเปิลที่ 11.7 ขณะที่ตัวเลขส่วนแบ่งตลาดของทั้ง 3 บริษัทในไตรมาส 4/2561 อยู่ที่ ซัมซุง ร้อยละ 18.7 แอปเปิล ร้อยละ 18.2 และหัวเว่ย ร้อยละ 16.1
หัวเว่ยเติบโตขึ้นมาเป็นคู่แข่งของทั้งแอปเปิลและซัมซุงจากการผลิตอุปกรณ์ราคาสูง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในตลาดบ้านเกิดอย่างประเทศจีน ด้านแอปเปิล ยอดขายไอโฟนยังคงที่อยู่ ขณะซัมซุงที่ได้อานิสงค์จากโทรศัพท์รุ่นใหม่ เอส10 ที่เปิดตัวเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา มีผลประกอบการในไตรมาส 1/2562 ดีกว่าไตรมาส 4/2561 โดยไอดีซีเชื่อว่า หัวเว่ยจะสามารถรักษาตำแหน่งอันดับที่ 2 ไปได้ทั้งปี 2562
"อันดับใหม่ที่เรียงจากซัมซุง หัวเว่ย และไอโฟน น่าจะเป็นเช่นนี้ไปจนจบปี 2562" ไรอัน รีท รองประธานของไอดีซีด้านสถิติโทรศัพท์ กล่าว
นอกจากหัวเว่ยจะพัฒนาโทรศัพท์ออกมาอย่างต่อเนื่อง นวัตกรรมใหม่ที่หัวเว่ยบอกว่าจะพัฒนาระบบปฏิบัติการเป็นของตัวเองเป็นเรื่องน่าจับตามองเช่นกัน หากเป็นเช่นนั้นจริงไอโฟนจะต้องพัฒนาสินค้าของตัวเองให้มากกว่าการอัพเกรดโทรศัพท์เดิมๆแบบที่เป็นอยู่หากหวังจะกลับมาตีตลาดจีนอีกครั้ง
อ้างอิง; Bloomberg, Asia Times, Forbes
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :