วันที่ 6 ก.พ. 2566 ที่พรรคเพื่อไทย ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรค พร้อมด้วย ประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรค พวงเพ็ชร ชุนละเอียด ประธานคณะกรรมการประสานงานด้านการเมืองพื้นที่ กทม. และธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ โฆษกพรรค แถลงเปิดตัว ‘อ๋อม-สกาวใจ พูนสวัสดิ์’ ดารานักแสดงชื่อดังเป็นผู้ประสงค์ลงสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.กทม. และว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.กทม. และส.ส.จันทบุรีใน 2 เขตเลือกตั้ง 

ชลน่าน กล่าวว่า จังหวัดจันทบุรีมี ส.ส. 3 เขตเลือกตั้ง เป็นเมืองที่มีความอุดมสมบูรณ์ และมีศักยภาพสูงมากในเรื่องเศรษฐกิจ เป็นเมืองที่มีความโดดเด่นในเรื่องเกษตรกรรม การท่องเที่ยว และการประมง ดังนั้นจันทบุรีจึงเป็นหมุดหมายสำคัญที่พรรคเพื่อไทยอยากเข้าไปมีส่วนร่วม และในส่วน กทม. อีก 3 ท่านนั้น จะทำให้ผู้สมัคร ส.ส. กทม.ครบทั้ง 33 เขต ซึ่งมีว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. กทม. คนอื่นๆ มาร่วมด้วย พวกเรามั่นใจว่าเลือกมาผสมผสานกันตั้งแต่ผู้มีประสบการณ์ มาจนถึงคนรุ่นใหม่ที่ต้องการทำเพื่อพี่น้องประชาชน 

ชลน่าน กล่าวอีกว่า สิ่งที่เป็นจุดแข็งคือ เรามีนโยบายที่เป็นประชาธิปไตยที่กินได้ เราคิดใหญ่ทำเป็นเพื่อไทยทุกคน คิดจะเปลี่ยนแปลงประเทศจากความคิดที่ใหญ่ เพราะประเทศเราบอบช้ำมานานพอแล้ว และยุทธศาสตร์ของพรรคนั้นคือ ประชาชนต้องเทคะแนนให้เราอย่างแลนด์สไลด์คือ 250 ที่นั่งขึ้นไป และปิดกั้นไม่ให้สิ่งที่เป็นอยู่ตอนนี้มาแย่งอำนาจประชาชนในการจัดตั้งรัฐบาล 

ชลน่าน เสริมว่า พรรคเพื่อไทยต้องการปิดกั้นกลไกสืบทอดอำนาจ รวมถึงกลไกในรัฐธรรมนูญที่บิดเบี้ยวนั่นคือ ส.ว.จำนวน 250 เสียงที่ยังมีสิทธ์ในการเลือกนายกรัฐมนตรีรอบนี้ และกลยุทธ์ที่ 3 การจะนำนโยบายมาปฏิบัติได้ แคนดิเดทนายกรัฐมนตรีจะมีส่วนช่วยในการทำงาน และเชื่อว่า แคนดิเดทนายกรัฐมนตรีของเราจะได้รับการยอมรับจากนานาอารยประเทศว่าจะนำประชาชนอยู่ดีกินดี 

“กทม.เป็นศูนย์กลางด้านมิติของสังคม พรรคเพื่อไทยจึงให้ความสำคัญกับหัวใจตรงนี้ ทั้ง ส.ส. ปัจจุบัน และว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. จะสามารถสร้างโอกาสร่วมกับพรรคเพื่อไทย เพื่ออนาคตของพี่น้อง กทม. และพี่น้องของประเทศไทย” ชลน่าน กล่าว 

ด้าน ประเสริฐ ได้กล่าวขอบคุณพี่น้องภาคใต้ที่ร่วมต้อนรับคณะของพรรคเพื่อไทย และขอขอบคุณพี่น้องชาวนครราชสีมา จากผลสำรวจนิด้าโพลในจังหวัดนครราชสีมาที่ระบุว่า พรรคเพื่อไทยมีคะแนนมาเป็นอันดับ 1 ทั้งความนิยมของพรรค ตัวบุคคล และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี 

ขณะที่ พวงเพ็ชร ในฐานะประธานภาค กทม. กล่าวว่า วันนี้เรามาเปิดความพร้อมทั้ง ส.ส.ในสภา เป็นดาวสภาทุกท่าน แก้ไขปเซหาต่างๆ ในกทม. มาตลอด และผู้สมัครใหม่ที่มาร่วมงานวันนี้ ทุกคนมีความรู้ความสามารถรับฟังปัญหา และทำงานเพื่อพี่น้อง กทม. ไม่ว่าจะเป็น นักธุรกิจ นักเศรษฐศาสตร์ ฯลฯ เชื่อว่า ผู้สมัคร กทม. สามารถทำงานในพื้นที่ และสภาได้ รวมถึงความพร้อมของนโยบาย ซึ่งจะเห็นได้ว่า นโยบายของ กทม. รวบรวมปัญหาโดยรอบ และภาคส่วนของ ส.ก.ที่จะมาแก้ไข และพัฒนาให้กับคนกรุงเทพฯ เชื่อว่าทุกนโยบายเป็นไปได้ และทำได้จริง 

“พรรคเพื่อไทยยังพร้อมเป็นรัฐบาล และพร้อมบริหารประเทศ ตลอด 8 ปีที่ผ่านมา ทั่วทั้งประเทศเจอปัญหาเศรษฐกิจปากท้อง โดยเฉพาะเรื่องทุจริต สะท้อนถึงความล้มเหลวของรัฐบาลชุดนี้ ดังนั้น ถึงเวลาแล้วที่ กทม. และทั้งประเทศ ต้องเปลี่ยนผู้บริหารชุดใหม่ พรรคเพื่อไทยขออาสามาแก้วิกฤตของประเทศจึงขอโอกาสให้พี่น้องทั้งประเทศใช้สิทธ์เลือกพรรคเพื่อไทยให้แลนด์สไลด์” พวงเพ็ชร ระบุ

ด้าน สกาวใจ เปิดเผยว่า ที่เล่นการเมืองเต็มตัวครั้งนี้ ตนตั้งใจอยากจะตอบแทนพี่น้องประชาชนที่มอบชื่อเสียงในวงการบันเทิงให้ตนมากกว่า 30 ปี และคิดว่า การเมืองเป็นเรื่องของทุกคน มันไม่ใช่เรื่องไกลตัว การที่ตนออกมาพูดถึงปัญหาตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาในช่องทางโซเชียลมีเดียเป็นการแก้ไขปัญหาที่ปลายเหตุ ดังนั้นการแก้ไขปัญหาที่ต้นเหตุคือต้องนำเอานโยบายดีๆ ไปเสนอต่อสภาในระบอบประชาธิปไตย นี่คือการแก้ปัญหาที่ยั่งยืนกว่าเพื่อนำพาประเทศก้าวไปข้างหน้า 

เมื่อถามว่า ทำไมต้องเป็นพรรคเพื่อไทย สกาวใจ กล่าวว่า เพราะตนแสดงจุดยืนที่ชัดเจนในเรื่องประชาธิปไตย ดังนั้นการทำงานการเมืองเชื่อว่า มันจะต้องเข้าถึงปัญหา การเข้าถึงปัญหาต้องยึดโยงตัวเรากับประชาชน และนี่คือสิ่งที่พรรคเพื่อไทยมีอย่างชัดเจน ทำให้ตนอุ่นใจ และเป็นสถาบันการเมืองที่เข้าถึงประชาชนตั้งแต่พรรคไทยรักไทยก็เห็นผลงานมาตลอด และเป็นพรรคเดียวที่คิดนโยบายสามารถทำได้จริง

สกาวใจ ยังกล่าวอีกว่า ตนไม่ได้ทิ้งวงการบันเทิง ถ้างานไหนที่พอจะรับได้ก็รับ แต่ความเปลี่ยนแปลงไปในอนาคตไม่สามารถตอบได้ แต่ที่ตัดสินใจลงมาทำงานการเมืองแบบนี้ ถ้าปล่อยให้บ้านเมืองเป็นแบบนี้ต่อไป มีใครไม่รู้ที่ประชาชนไม่ได้เลือกมาประเทศก็จะไม่พัฒนา และนอกจากนี้ตนยังทำเพื่อตัวเอง เพราะอยากอยู่ในประเทศที่เจริญแล้ว 

“ปรึกษาผู้ใหญ่ในพรรค และต้องการลงในพื้นที่สะพานสูง เพราะใช้ชีวิตกับครอบครัวในพื้นที่นี้มาตลอด หลายๆ คนในพื้นที่คงเคยเห็นตนอยู่เรื่อยๆ จึงตัดสินใจลงเขตสะพานสูง และการมาลงสมัคร ส.ส. ในครั้งนี้ มั่นใจว่า มาเพื่อชนะ ไม่มีคำว่าแพ้ในหัว” สกาวใจ กล่าว 

ทั้งนี้ รายชื่อว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.จันทบุรี จำนวน 2 คน ได้แก่ 

1.วันทิตย์ ตั้งรักษาสัตย์ 

2.นิติรุจน์ ศิระวิเชษฐ์กุล

ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.กทม. จำนวน 3 คน ได้แก่ 

1.สกาวใจ พูนสวัสดิ์ กทม. เขตสะพานสูง ประเวศ 

2.เอกภาพ หงสกุล กทม. เขตสายไหม 

3.กมลพัฒน์ ปุงบางกระดี่ กทม. เขตบางขุนเทียน