วันที่ 6 ก.พ. 2565 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่ ส.ส.พรรคก้าวไกล ที่ทำหน้าที่โฆษกคณะกรรมาธิการการป้องกันปราบปรามการทุจริตเเละประพฤติมิชอบ หรือ กมธ.ป.ป.ช. สภาผู้แทนราษฎร ออกมาให้สัมภาษณ์ถึงกรณี สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ หรือ 'ดร.เอ้' ว่าที่ผู้สมัครผู้ว่า กทม.ของพรรคประชาธิปัตย์ถูก กมธ.ป.ป.ช. ร้องตรวจสอบเรื่องทรัพย์สินว่าร่ำรวยผิดปกติโดยระบุว่า

เรื่องนี้มีไม่กี่ประเด็นที่ประชาชนต้องทราบข้อเท็จจริงและหลักการในกระบวนการตรวจสอบของ กมธ.ปปช. โดยประการแรก ในส่วนของพรรคประชาธิปัตย์ ยินดีให้มีการตรวจสอบ อย่างตรงไปตรงมาตามหลักการ และเชื่อว่า สุชัชวีร์ สามารถชี้แจงรายละเอียดได้

ประการที่สอง การที่ ส.ส.พรรคก้าวไกล ได้จุดประเด็นเรื่องการตรวจสอบในกรณีร่ำรวยผิดปกติ แต่เรื่องนี้ไม่มีอะไรสลับซับซ้อน กรรมาธิการในสภาฯ มีอำนาจหน้าที่ตามที่รัฐธรรมนูญและข้อบังคับกำหนดคือการพิจารณา ศึกษาเรื่องใดๆ และให้รายงานต่อสภาทราบ

"แต่รัฐธรรมนูญระบุไว้ว่าต้องเป็นเรื่องที่อยู่ในอำนาจหน้าที่ของสภา นอกเหนืออำนาจไม่สามารถกระทำการได้ ซึ่งเชื่อว่าผู้เป็น ส.ส.จะรู้เรื่องนี้ดี" ราเมศกล่าว

ราเมศกล่าวอีกว่า ประการที่สาม กรณี สุชัชวีร์ เป็นอดีตอธิการบดี ต้องยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สิน ซึ่งอำนาจในการตรวจสอบในเรื่องของบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินรวมถึงกรณีการร่ำรวยผิดปกติรัฐธรรมนูญกำหนดไว้ชัดในมาตรา 234 (2) กรณีที่เจ้าหน้าที่ของรัฐร่ำรวยผิดปกตินั้น รัฐธรรมนูญได้กำหนดไว้ให้เป็นอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช.

"ฉะนั้นการที่ ส.ส.พรรคก้าวไกลได้ออกมาแถลงว่าจะดำเนินการตรวจสอบโดยมุ่งประเด็นไปที่กรณีร่ำรวยผิดปกติรวมถึงทรัพย์สิน กรณีนี้ถือว่าเป็นการก้าวล่วงอำนาจของประชาชนกระทำการทั้งๆ ที่ตนไม่มีอำนาจหน้าที่ ขัดแย้งกับหลักการของรัฐธรรมนูญชัดเจน ซึ่งต้องขอย้ำว่า การจงใจปฏิบัติหน้าที่และใช้อำนาจขัดต่อรัฐธรรมนูญ จึงต้องระมัดระวังในการดำเนินการ" ราเมศกล่าว

ราเมศกล่าวต่อว่า เรื่องนี้ไม่มีใครไปขัดขวางการตรวจสอบ เชื่อว่าการตรวจสอบคือการตั้งต้นนำไปสู่การเมืองที่สุจริต แต่กระบวนการต้องถูกต้องตรงไปตรงมา ส.ส.พรรคก้าวไกล ต้องดำเนินการคิดให้รอบคอบ

"อย่าคิดเพื่อหวังผลในทางการเมืองอย่างเดียว ที่บอกว่าเป็นพรรคการเมือง นักการเมือง รุ่นใหม่ แต่สิ่งที่ทำอย่างตรงกันข้าม เพราะหากคิดใช้เรื่องนี้เพื่อประโยชน์ในทางการเมือง ขอให้ประชาชนและชาว กทม.จับตาว่า บางพรรคการเมืองไม่ได้คิดถึงประชาชนอย่างแท้จริง ทำอะไรต่างฉกฉวยประโยชน์ทางการเมือง ซึ่งเชื่อว่าประชาชนจะรับรู้ข้อมูลมากขึ้น" ราเมศกล่าว