ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ ส.ส.กทม. และโฆษกพรรคเพื่อไทย พร้อมด้วย จิราพร สินธุไพร ส.ส.ร้อยเอ็ด และกรรมการบริหารพรรค วันนิวัติ สมบูรณ์ ส.ส.ขอนแก่น ศรัณย์ ทิมสุวรรณ ส.ส.เลย พรรคเพื่อไทย ลงพื้นที่พูดคุยกับพี่น้องประชาชนที่มาร่วมคัดค้านร่างพระราชบัญญัติการดำเนินกิจกรรมขององค์กรไม่แสวงหากำไร พ.ศ. ....' หรือ พ.ร.บ.ควบคุมการรวมกลุ่ม ที่บริเวณด้านหน้าองค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น)
ธีรรัตน์ กล่าวว่า จากการพูดคุยสอบถามพี่น้องประชาชนที่มาเรียกร้องคัดค้านกฎหมายฉบับนี้พบว่า แม้รัฐบาลจะส่ง อนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีมาพูดคุยเจรจาแล้ว แต่พี่น้องประชาชนรู้สึกว่าไม่มีคำตอบที่น่าพอใจและคาดว่ารัฐบาลจะเดินหน้าผลักดันกฎหมายฉบับนี้ต่อ ทั้งที่ร่างกฎหมายฉบับนี้มีความสุ่มเสี่ยงว่าจัดทำขึ้นเพื่อผลประโยชน์ของรัฐ ให้อำนาจรัฐเกินขอบเขตเพื่อกำจัดคนเห็นต่างได้สะดวกขึ้น และยังมีความเป็นไปได้ว่าจะมีการใช้กฎหมายล้นเกินจนอาจนำไปสู่การละเมิดสิทธิมนุษยชนได้ พรรคเพื่อไทยจะเข้าไปดูในรายละเอียดของกฎหมายอย่างถี่ถ้วนอีกครั้ง หากพบว่ามีข้อบัญญัติใดที่เป็นการริดลอนสิทธิเสรีภาพของพี่น้องประชาชน พรรคเพื่อไทยและพรรคร่วมฝ่ายค้านจะขอต่อต้านทุกวิถีทางและจะไม่ยอมให้กฎหมายนี้เข้าสู่การพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎร
สำหรับร่างพระราชบัญญัติการดำเนินกิจกรรมขององค์กรไม่แสวงหากำไร หรือ พ.ร.บ.การควบคุมการรวมกลุ่ม ถูกจัดทำขึ้นโดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ออกคำสั่งให้คณะกรรมการกฤษฎีกาศึกษาและยกร่างเป็นกฎหมาย และได้ผ่านความเห็นชอบในหลักการจากที่ประชุมคณะรัฐมนตรีมาแล้ว 2 ครั้งในปี 2564 และ 1 ครั้ง ในปี 2565 โดยขณะนี้อยู่ในระหว่างการเปิดรับฟังความคิดเห็น ภายในเนื้อหาร่างกฎหมายจะให้อำนาจกับกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ แต่งตั้งคณะกรรมการส่งเสริมและพัฒนาองค์กรไม่แสวงหาผลกำไร จัดหาและจัดเก็บเงินทุนเอง และยังบังคับให้องค์กรไม่แสวงหากำไรต้องเปิดเผยวิธีดำเนินงาน แหล่งรายได้ รายชื่อผู้รับผิดชอบ มีอำนาจยกเว้นให้บางองค์กรไม่ต้องทำตามกรอบของกฎหมายนี้ได้ และยังสามารถอ้างความมั่นคงสั่งหยุดกิจกรรมองค์กรไม่แสวงหากำไรได้ด้วย เป็นต้น
“กฎหมายใดๆที่มีแนวโน้มใช้เกินขอบเขต และไม่เกิดประโยชน์กับประชาชน พรรคเพื่อไทยขอต่อต้านทุกวิถีทาง โดยเฉพาะรัฐบาลนี้มีแนวโน้มสูงมากในการใช้กฎหมายปราบปรามประชาชนที่เห็นต่าง เราจะไม่ยอมให้เขาทำอย่างนั้นอีกต่อไป หากว่าข้อเรียกร้องของพี่น้องประชาชนในวันนี้ รัฐบาลยังไม่ได้ยินหรือเสียงไม่ดังพอ และฝ่าฝืนนำเข้าสู่สภา พรรคร่วมฝ่ายค้านโดยพรรคเพื่อไทยที่มีเสียงมากที่สุดจะต่อต้านกฎหมายฉบับนี้อย่างสุดกำลังแน่นอน” ธีรรัตน์กล่าว