ไม่พบผลการค้นหา
อดีตรองประธานสภาฯ สอนมวย ‘ก้าวไกล’ ชี้ประธานสภาฯ ไม่มีสิทธิเลือกกฎหมายตามใจ เตือนให้ข้อมูลคลาดเคลื่อนระวังทำให้สภาฯ เสียหาย ย้ำในอดีตประธานสภาฯ เคยมาจากพรรคไม่ใช่เสียงอันดับ 1 พร้อมบี้ กกต.เร่งรับรองผลเลือกตั้ง ส.ส.ให้สภาฯ เดินหน้า

วันที่ 27 พ.ค. 2566 สุชาติ ตันเจริญ ว่าที่ ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย ในฐานะอดีตรองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 1 กล่าวถึงกรณีแถลงการณ์ของพรรคก้าวไกล และคำให้สัมภาษณ์ของแกนนำพรรคก้าวไกลเกี่ยวกับตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎรว่า อาจทำให้สังคมเกิดความเข้าใจผิดได้ว่า ประธานสภาฯ และนายกรัฐมนตรี สามารถใช้ดุลพินิจเกี่ยวกับการตรากฎหมายยิ่งกว่าเจตจำนงของ ส.ส. ที่เป็นตัวแทนของประชาชน และการอ้างว่าเป็นประเพณีที่พรรคการเมืองที่ได้คะแนนเสียงเป็นอันดับ 1 ในสภา จะได้รับตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎร ก็ไม่ตรงตามข้อเท็จจริงเสียทีเดียว เพราะในประวัติศาสตร์มีหลายครั้งที่ประธานสภาฯ ก็ไม่ได้มาจากพรรคการเมืองที่มี ส.ส. มากที่สุด ที่ผ่านมาทุกสมัย ประธานสภาฯ จะมาจากการเลือกของเพื่อน ส.ส.ในสภาฯ ไม่ใช่พรรคการเมืองพรรคใดพรรคหนึ่งเป็นผู้เลือก และการปฏิบัติหน้าที่ของประธานสภาฯ จะต้องปฏิบัติหน้าที่ด้วยความเป็นกลางตามกรอบที่รัฐธรรมนูญ ตลอดจนข้อบังคับการประชุมสภาฯกำหนด

สำหรับการบรรจุวาการประชุมสภาฯ รวมไปถึงวาระการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.ต่างๆ ประธานสภาผู้แทนราษฎร ไม่มีอำนาจเหนือรัฐธรรมนูญ และข้อบังคับการประชุมสภา การจะบรรจุร่าง พ.ร.บ.ของพรรคที่ตนเองสังกัดก็ต้องบรรจุตามลำดับ ประธานสภา ไม่มีสิทธิที่จะเลือกบรรจุตามอำเภอใจได้ และไม่มีสิทธิที่จะเลื่อนร่าง พ.ร.บ.ที่บรรจุไปแล้วขึ้นมาพิจารณา ซึ่งเป็นเรื่องของที่ประชุมสภาต้องตกลงกัน 

“เข้าใจว่า ขณะนี้มีความพยายามในการแย่งชิงตำแหน่งประธานสภากันระหว่างพรรคอันดับ 1 และอันดับ 2 ซึ่งเป็นเรื่องการเจรจาต่อรองกันทางการเมืองที่เจรจากันเป็นการภายใน และพรรคก้าวไกล เองก็มีอดีต ส.ส.ร่วมทำหน้าที่ในสภาชุดที่แล้วหลายท่าน การกล่าวหาสภาในทางเสียหาย ก็เหมือนกับตำหนิการทำหน้าที่ของตัวเองด้วย จึงอยากให้ระมัดระวังการให้ข้อมูลที่คลาดเคลื่อนเกี่ยวกับสภา หรืออำนาจหน้าที่ของประธานสภาฯ ส่วนตัวผมก็มีคนเชียร์ว่า จะถูกเสนอชื่อเป็นประธานสภา ในสภาชุดนี้ แต่ก็ขึ้นอยู่กับพรรคที่จะเสนอชื่อใคร และก็ต้องขึ้นอยู่กับที่ประชุมสภาด้วยว่า จะลงมติเลือกหรือไม่ แต่สาระสำคัญไม่ใช่อยู่ใครได้เป็นประธานสภาฯ เพราะความสำคัญอยู่ที่การที่สภา ได้เริ่มทำงานเพื่อแก้ไขปัญหาของพี่น้องประชาชนที่ลงคะแนนเสียงเลือกตั้งมาได้เมื่อใดมากกว่า” 

สุชาติ กล่าวถึงวาระของพรรคก้าวไกล ที่ต้องการทำให้สภามีความโปร่งใส เปิดเผย ตรวจสอบได้ว่าในสภาฯชุดที่ผ่านมา การประชุมสภา จะมีการถ่ายทอดสดการประชุมทุกครั้งทางสถานีวิทยุรัฐสภาคลื่น FM 87.5 เมกกะเฮิร์ต และถ่ายทอดทางโทรทัศน์รัฐสภา TPTV ช่อง 10 รวมทั้งผ่านทางแพลตฟอร์มออนไลน์ต่างๆตลอด 4 ปี ส่วนการประชุมของคณะกรรมาธิการนั้น จะมีทั้งข้อมูลที่เปิดเผยได้ และเปิดเผยไม่ได้ การประชุมใดจะเป็นการลับ หรือเป็นการเปิดเผยจึงขึ้นอยู่กับมติของสมาชิกคณะกรรมาธิการนั้นๆ

เมื่อถามว่า ตามกระแสข่าวหากพรรคเพื่อไทยได้โควตาประธานสภาฯ จริง สุชาติ อาจได้รับการเสนอชื่อ นายสุชาติ กล่าวว่า การลงมติเลือกผู้ทำหน้าที่ประธานสภาฯ ไม่ใช่เรื่องของพรรคการเมืองใด แต่เป็นการลงมติร่วมกันของ ส.ส.ทั้งสภา ทั้งรัฐบาล และฝ่ายค้าน ส่วนตัวไม่ได้ยึดติดกับตำแหน่งและไม่อยากให้เรื่องนี้เป็นอุปสรรคที่อาจทำให้การจัดตั้งรัฐบาลล่าช้า เพราะปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนรอไม่ได้ จึงอยากฝากไปถึงให้ คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ให้เร่งพิจารณาประกาศรับรองผลการเลือกตั้ง เพื่อให้สภาฯเดินหน้าการทำงานได้โดยเร็ว