ความเห็นของพระคาร์ดินัลเติร์กสันในครั้งนี้มีขึ้น ในขณะที่รัฐสภากานากำลังถกเถียงกันเพื่อการออกกฎหมายกำหนดโทษให้แก่กลุ่มคนที่เป็น LGBTQ+ อย่างไรก็ดี ความเห็นของพระคาร์ดินัลเติร์กสันขัดแย้งกับบาทหลวงนิกายโรมันคาทอลิกในกานาที่กล่าวว่า การรักเพศเดียวกันนั้นเป็นสิ่งที่ "น่ารังเกียจ"
เมื่อเดือนที่แล้ว สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิสทรงเสนอแนะว่า พระองค์จะเปิดให้คริสตจักรคาทอลิกให้พรแก่คู่รักเพศเดียวกัน อย่างไรก็ดี สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิสทรงกล่าวเสริมว่า ศาสนจักรคาทอลิกยังคงถือว่าความสัมพันธ์ระหว่างเพศเดียวกันเป็น "บาปอย่างโดยทั่วไป" และคริสตจักรคาทอลิกจะไม่ยอมรับการสมรสของคนเพศเดียวกัน
ในเดือน ก.ค.ที่ผ่านมา สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของกานา ได้สนับสนุนการร่างกฎหมายซึ่งยังไม่ผ่านการรับรองจากรัฐสภา โดยกฎหมายกำหนดว่า ผู้เป็น LGBTQ+ ในกานาต้องระวางโทษจำคุก 3 ปี และผู้ที่รณรงค์เพื่อสิทธิ LGBTQ+ อาจถูกจำคุกสูงสุด 10 ปี อย่างไรก็ดี การมีเพศสัมพันธ์ในชายรักชายถือว่าเป็นผิดที่มีอยู่แล้วตามกฎหมายกานา และผู้กระทำความผิดดังกล่าวต้องระวางโทษจำคุก 3 ปี
ยิ่งไปกว่านั้น หนังสือพิมพ์ The Catholic Herald รายงานอ้างอิงแถลงการณ์ของกลุ่มพระบิชอปในกานา เมื่อช่วงเดือน ส.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นแถลงการณ์ที่ออกร่วมกับกลุ่มคริสเตียนชั้นนำอื่นๆ ว่า ประเทศตะวันตกควร "หยุดความพยายามอย่างต่อเนื่อง ที่จะยัดเยียดคุณค่าทางวัฒนธรรมต่างประเทศที่ยอมรับไม่ได้ให้กับเรา"
พระคาร์ดินัลเติร์กสัน ซึ่งหลายครั้งถูกมองว่าจะเป็นผู้ลงสมัครชิงตำแหน่งพระสันตะปาปาในอนาคต บอกกับรายการ HARDtalk ของ BBC ว่า “ชาว LGBT ไม่ควรถูกทำให้เป็นอาชญากรเพราะพวกเขาไม่ได้ก่ออาชญากรรม” พระคาร์ดินัลเติร์กสันกล่าวเสริมอีกว่า “ถึงเวลาที่จะเริ่มการให้การศึกษา เพื่อช่วยให้ผู้คนเข้าใจว่าความจริงและปรากฏการณ์นี้คืออะไร เราต้องการการศึกษาจำนวนมากเพื่อให้ผู้คน... สร้างความแตกต่างระหว่างสิ่งที่เป็นอาชญากรรมและสิ่งที่ไม่ใช่อาชญากรรม”
พระคาร์ดินัลเติร์กสันกล่าวถึงข้อเท็จจริงที่ว่า ในภาษาอะคานซึ่งเป็นภาษาหนึ่งของประเทศกานา มีสำนวนว่า "ผู้ชายที่ทำตัวเหมือนผู้หญิง และผู้หญิงที่ทำตัวเหมือนผู้ชาย" พระคาร์ดินัลเติร์กสันยังแสดงความเห็นแย้งว่า สำนวนดังกล่าวเป็นข้อบ่งชี้ว่าการรักเพศเดียวกันไม่ใช่การบังคับจากภายนอก “ถ้าเรามีการแสดงออกทางวัฒนธรรม... มันก็หมายความว่ามันไม่ได้แปลกไปจากสังคมกานาเลย”
อย่างไรก็ดี พระคาร์ดินัลเติร์กสันกล่าวว่า เขาคิดว่าสิ่งที่นำไปสู่ความพยายามในปัจจุบัน ในการผ่านมาตรการต่อต้านเกย์ที่เข้มงวดในหลายประเทศของแอฟริกา คือ "ความพยายามที่จะเชื่อมโยงการบริจาคและเงินช่วยเหลือจากต่างประเทศบางส่วน เข้ากับตำแหน่งบางตำแหน่ง... ในนามของเสรีภาพ ในนามของการเคารพสิทธิ” พระคาร์ดินัลเติร์กสันกล่าวเสริมว่า “ตำแหน่งนี้ไม่ควรกลายเป็น... บางสิ่งบางอย่างที่จะกำหนดให้กับวัฒนธรรมที่ยังไม่พร้อมที่จะยอมรับสิ่งเหล่านั้น”
ในเดือน พ.ค.ที่ผ่านมา รัฐสภายูกันดาอนุมัติกฎหมาย ที่เสนอให้ผู้ใดก็ตามที่ถูกตัดสินว่ามีพฤติกรรมรักเพศเดียวกัน ต้องระวางโทษจำคุกตลอดชีวิต และโทษประหารชีวิตสำหรับคดีรุนแรง ซึ่งหมายรวมถึงการมีเพศสัมพันธ์แบบชายรักชายกับผู้ที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี หรือในกรณีที่ทำให้บุคคลอื่นต้องติดเชื้อตลอดชีวิตจากโรคเรื้อรัง อาทิ เอชไอวี
ในเดือน ส.ค. ธนาคารโลกระงับการให้กู้ยืมเงินใหม่แก่ยูกันดา เนื่องจากมาตรการในการออกกฎหมายต่อต้านเกย์ และในเดือน ต.ค. โจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐฯ กล่าวว่าสหรัฐฯ จะถอดยูกันดาออกจากข้อตกลงการค้าพิเศษ เนื่องจาก “การละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างร้ายแรงซึ่งเป็นที่ยอมรับในระดับสากล”
พระคาร์ดินัลเติร์กสันกลายเป็นพระคาร์ดินัลชาวกานาคนแรกในปี 2546 เมื่อเขาได้รับแต่งตั้งจากสมเด็จพระสันตะปาปาจอห์นปอลที่ 2 โดยปัจจุบันนี้ พระคาร์ดินัลเติร์กสันดำรงตำแหน่งเป็นอธิการบดีของสภาวิทยาศาสตร์แห่งองค์พระสันตะปาปาในนครวาติกัน
ที่มา: