ไม่พบผลการค้นหา
'ทิพานัน' แนะ 'เพื่อไทย' สร้างมาตรฐานยื่นญัตติด่วนปมหนองบัวลำภู ไม่คาดเดาและด่วนสรุปโดยไม่มีหลักฐาน เผยนายกฯ กำชับทุกหน่วยเข้มกวดขันคุมยาเสพติด พร้อมกางผลปราบยาเสพติดรัฐบาล ยึดทรัพย์ได้เกินเป้าถึง 7 พันล้าน วอนอย่าเปรียบรัฐบาลทักษิณ ที่ฆ่าตัดตอนทำเสียชีวิต 1.4 พันศพ-สุมไฟความไม่สงบ

ทิพานัน ศิริชนะ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และโฆษกพรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงกรณีที่พรรคเพื่อไทยเตรียมเสนอญัตติด่วนในการแก้ไขปัญหาเหตุกราดยิงที่ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก อบต.อุทัยสวรรค์ อ.นากลาง จ.หนองบัวลำภูว่า ขอบคุณพรรคเพื่อไทยที่ให้ความสำคัญกับประเด็นปัญหาดังกล่าว และนำประเด็นนี้เข้าไปสอบถามคณะรัฐมนตรี ตามกระบวนการนิติบัญญัติ ซึ่งเชื่อว่าจะได้รับคำตอบที่ชัดเจนและนำไปสู่ความเข้าใจ รวมทั้งการแก้ไขปัญหาร่วมกันของสังคมไทยจากคณะรัฐมนตรี เพราะเหตุรุนแรงที่เกิดขึ้นถือเป็นวาระแห่งชาติที่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งจะแก้ไขเพียงลำพังไม่ได้ จะต้องอาศัยความร่วมมือกันในทุกภาคส่วน ทั้งรัฐบาล ฝ่ายค้าน เอกชน ภาคประชาสังคมต่างๆ และที่สำคัญคือพี่น้องประชาชน

ทิพานัน กล่าวว่า ทั้งนี้พรรคเพื่อไทยยังไม่ควรด่วนสรุป ในการกล่าวหาว่ารัฐบาลบกพร่องในเรื่องของการแก้ไขปํญหายาเสพติด เนื่องจากสาเหตุของโศกนาฏกรรมที่เกิดขึ้นนั้นเป็นเพียงข้อสันนิษฐานเบื้องต้น ที่ล่าสุด ผลผ่าชันสูตรศพผู้ก่อเหตุร้ายไม่พบสารเสพติด ซึ่งจะต้องมีกระบวนการทางนิติเวชในการดำเนินการต่อไป จึงขอให้ระมัดระวังในการแสดงความคิดเห็น ควรรอให้กระบวนการได้ข้อยุติ เช่นเดียวกับกระบวนการในการสอบสวนหาสาเหตุที่แท้จริงของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเสียก่อน อย่ารีบร้อนจนเกินไป เพราะเป็นเรื่องละเอียดอ่อนที่ฝ่ายการเมืองต้องแสดงให้เห็นถึงความมีวุฒิภาวะ ในสถานการณ์วิกฤติเช่นนี้

​“ฉะนั้น ข้อมูลที่จะนำมาพูดคุยกันในสภาผู้แทนราษฎร ควรต้องสร้างมาตรฐานในการยืนญัตติในครั้งนี้ โดยไม่สร้างหรือตอกย้ำให้เกิดความหดหู่ กับครอบครัวผู้เสียชีวิต และไม่ควรคาดเดาหรือด่วนสรุปโดยไม่มีหลักฐานในสภาฯอังทรงเกียรติ”ทิพานัน กล่าว

ทิพานัน กล่าวอีกว่า อีกทั้งที่ผ่านมา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ให้ความสำคัญกับนโยบายป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ให้มีการบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจังและให้ปรากฏผลอย่างเป็นรูปธรรม โดยมีการปรับปรุงกฎหมาย พระราชบัญญัติ ให้ใช้ประมวลกฎหมายยาเสพติด พ.ศ. 2564 ซึ่งเน้นการตัดวงจรยาเสพติดด้วยการเพิ่มประสิทธิภาพในการยึดทรัพย์ เพิ่มแรงจูงใจปฏิบัติหน้าที่ คือให้รางวัลนำจับที่มีมากถึง 30% ของมูลค่าทรัพย์ที่ยึดได้ โดย 25% เป็นของเจ้าหน้าที่ผู้สืบสวนและทำคดี และ อีก 5% เป็นของผู้แจ้งเบาะแสเพื่อให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมในการปราบปรามยาเสพติด ให้ช่วยแจ้งเบาะแสรัฐบาล ได้ตั้งเป้าหมาย เพื่อตัดวงจรการค้ายาเสพติด ด้วยการยึดอายัดทรัพย์สินที่เกี่ยวข้อง ที่อยู่ในกระบวนการยึด โดยในปี 2564 รัฐบาลตั้งเป้ายึดทรัพย์ 6,000 ล้านบาท แต่สามารถยึดทรัพย์ได้กว่า 7,000 ล้านบาท กับผู้เกี่ยวข้องกับนาเสพติดอย่างไรก็ตาม นายกรัฐมนตรี ก็ได้กำชับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพิ่มความเข้มงวดกวดขันในการควบคุมยาเสพติด

​“ส่วนที่มีความพยายามนำไปเปรียบเทียบกับรัฐบาลทักษิณ ชินวัตร ที่มีการดำเนินการปราบปรามยาเสพติดอย่างรุนแรงนั้น ขออย่าได้นำไปเปรียบเทียบกัน เพราะจากปัญหาการฆ่าตัดตอนสมัยของรัฐบาลทักษิณนั้น ผลคือทำให้มีจำนวนผู้เสียชีวิตกว่า 1,400 คน เป็นเหตุของการละเมิดสิทธิมนุษยชนและสร้างปัญหาสั่งสมให้เกิดความไม่สงบมาจนถึงปัจจุบัน ” ทิพานัน กล่าว