ไม่พบผลการค้นหา
'อนุทิน' ไฟเขียวลูกพรรคฟ้อง 'เศรษฐา' ได้ ปมปราศรัยโจมตีภูมิใจไทย เมินเคลียร์ใจ ไม่กังวลสายสัมพันธ์ 2 พรรคบอกถึงเวลาจริงรู้อยู่ใครเคาะได้ ยินดี 'อิ๊งค์' คลอดลูกชาย 'ทักษิณ' ได้หลาน ส่วนการกลับไทยไม่ขอวิจารณ์ โยนให้เป็นไปตามกฎหมาย

อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) กล่าวถึงท่าทีการฟ้องกลับ เศรษฐา ทวีสิน ที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย หลังปราศรัยโจมตีพรรค ภท. ว่า ทางพรรคมีฝ่ายกฎหมายดูอยู่แล้วอะไรที่ทำให้เสียหายหรือผิดกฎหมายก็คงต้องดำเนินการ เพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่างต่อไป พร้อมปฏิเสธตอบว่าก่อนเข้าการเมือง เศรษฐา เป็นคนอย่างไร ก่อนฮัมเพลงว่า "โปรดอย่าถามว่าฉันเป็นใครเรื่องในอดีต"

เมื่อถามย้ำว่า มีการดำเนินคดีกับ เศรษฐา ในเรื่องนี้แล้วหรือยัง อนุทิน กล่าวว่า ตนไม่นำพาเรื่องนี้ แต่ทางพรรคภูมิใจไทยมีฝ่ายกฎหมาย ซึ่งต้องดำเนินการตามขั้นตอน ตรงนี้ไม่ต้องถามหัวหน้าพรรค เพราะหากใครทำผิดกฎหมายก็สามารถร้องเรียนได้ พร้อมระบุด้วยว่า ถ้ามาพูดเรื่องเท็จช่วงการหาเสียงด้อยค่านโยบายพรรคหรือเกิดผลทางลบ ผู้เสียหายทุกคนที่เป็นผู้สมัครของพรรคภูมิใจไทย ก็มีสิทธิดำเนินการฟ้องร้องด้วยความชอบธรรม

เมื่อถามต่อว่า การปราศรัยของ เศรษฐา จะทำให้พรรคเพื่อไทยเหลือทางเดินแคบลงหรือไม่ และต้องรับผิดชอบอย่างไร อนุทิน กล่าวว่า เพื่อไทย เมื่อถึงเวลาจริงๆ ก็รู้กันอยู่แล้วว่าใครเคาะได้ ใครได้แต่พูด คนการเมืองรู้ดี ตนไม่กังวลเรื่องพวกนี้หรอก

ส่วนการที่พรรคเพื่อไทยไปปราศรัยโจมตีในพื้นที่อีสานใต้แสดงว่าไม่มั่นใจในคะแนนเสียงหรือ อนุทิน มองว่า การวิพากษ์วิจารณ์สามารถทำได้ แต่ต้องอยู่บนพื้นฐานความเป็นจริงไม่ใช่ไปบอกว่าอย่าไปเลือกภูมิใจไทย เดี๋ยวลุงตู่มา อย่างนี้มันพูดไม่ได้ เพราะเป็นการโน้มน้าวทำให้เกิดความเข้าใจผิด ทำให้พรรคภูมิใจไทย เสียหาย รวมถึงผู้สมัคร ส.ส. ของพรรค และย้ำว่าถ้ามีประเด็นทางกฎหมายเราก็ต้องดำเนินการ พร้อมยืนยันหากพรรคภูมิใจไทยได้จำนวน ส.ส. มากเพียงพอ ที่ต้องรับตำแหน่งสำคัญ ไม่ว่าตำแหน่งนายกฯ หรืออะไร ภูมิใจไทยก็ต้องเอาคนของพรรค พร้อมยืนยันว่า ถ้าพรรคภูมิใจไทยมา อนุทิน เป็นนายกฯ

ทั้งนี้ อนุทิน ปฏิเสธตอบว่า แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย มีวุฒิภาวะมากกว่าหรือไม่

ขณะเดียวกัน อนุทิน ยังยินดีกับ แพทองธาร ชินวัตร แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคเพื่อไทย ที่คลอดบุตรชายเมื่อวานนี้ ว่า ตอนแรกตนจะโพสต์แสดงความยินดี แต่เนื่องจากมีประเด็นทางการเมือง อาจจะโดนมองว่าเป็นการทอดสะพานทางการเมืองหรือไม่ แต่ในมุมของการเป็นคนรักใคร่ชอบพอกัน ก็ต้องแสดงความยินดีจริงๆ คนมีลูกจะมีความสุข ฝากแสดงความยินดีกับคุณตาด้วย 

เมื่อถามถึงกรณีที่ ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โพสต์ทวิตเตอร์ว่าจะกลับมาเลี้ยงหลาน อนุทิน กล่าวว่า เรื่องนี้ขอให้เป็นไปตามกระบวนการทางกฎหมาย เรื่องนี้ไม่ใช่สิ่งที่พรรคภูมิใจไทย จะวิพากษ์วิจารณ์ได้ จะเห็นได้ว่าพรรคภูมิใจไทย หลีกเลี่ยงที่จะพูดถึงทางอื่นไม่ว่าเรื่องใดก็ตาม

ทั้งนี้ อนุทิน ยังย้ำจุดยืนของพรรคภูมิใจไทยว่า จะสนับสนุนพรรคที่มี ส.ส.มาเป็นลำดับที่ 1ในการจัดตั้งรัฐบาล และไม่เห็นด้วยกับการให้คนที่อยู่นอกบัญชีรายชื่อแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีเข้ามาเป็นนายกฯ 

ส่วนจะต้องมีการเคลียร์ใจกับพี่นิด หรือพรรคเพื่อไทยหรือไม่ อนุทิน ระบุว่า ไม่มีแล้ว พี่เขาว่าผมก่อน เขาไม่ได้ว่าผมส่วนตัว เขาว่าพรรคหนักกว่าว่าส่วนตัวอีก เพราะว่าส่วนตัวผมยังมองว่าเป็นพี่ๆน้องๆ กัน แต่นี่ว่าพรรค คนอื่นๆ ในพรรคก็เสียหาย ผมจึงจำเป็นต้องออกมาตอบโต้ เท่านั้นเอง ไม่มีอะไรในเรื่องส่วนตัว หากมีเรื่องส่วนตัวคงไม่เรียกพี่นิด 

ส่วนจะไฟเขียวให้ผู้สมัครทั้งประเทศฟ้องเอาผิดหรือไม่นั้น อนุทิน กล่าวว่า เรื่องดังกล่าวตนไม่ได้มีธง แล้วแต่การตัดสินใจของแต่ละคน ตอนนี้เหลือเวลาอีกเพียง 2 สัปดาห์เราต้องทำงานของเรา ถ้าผู้สมัครคนใดรู้สึกเสียหายก็เป็นสิทธิ์ของเขา เราไปชี้นำหรือสั่งการคงไม่ได้ 

ส่วนจะเป็นการปิดประตูกับพรรคเพื่อไทยเลยหรือไม่ อนุทิน ระบุว่า เมื่อถึงเวลาเขาก็มีช่องทางในการพูดคุย ทุกพรรคการเมือง 

ส่วนจะเป็นเงื่อนไขว่าหากพรรคเพื่อไทยให้ เศรษฐา เป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคภูมิใจไทยจะไม่จับมือด้วยหรือไม่ อนุทิน ย้ำว่าวันนี้ภูมิใจไทยยังไม่พูดท่าทีอะไรทั้งสิ้น ตั้งแต่วันที่แถลงจุดยืนพรรค จนถึงวันนี้ ยังไม่มีการหารือกับพรรคการเมืองใด ทุกวันนี้ดูแลแต่ตัวเอง ไม่ให้บอบช้ำกับการกล่าวหา กล่าวให้ร้ายจากผู้อื่น

ขณะเดียวกัน อนุทิน กล่าวถึงผลโพลของพรรคภูมิใจไทย ในช่วงโค้งสุดท้ายว่าดี และตนก็คาดหวัง ส.ส.ได้มากที่สุดเท่าไหร่ก็เท่านั้น เพราะคนที่ตัดสินใจคือประชาชน หากวันนี้ไม่ติดการประชุมคณะรัฐมนตรีคงไม่ได้อยู่กรุงเทพฯ ที่ต้องเข้ามาเพราะมีหน้าที่เป็นคณะรัฐมนตรีรักษาการ ต้องเข้ามาทำหน้าที่ให้สมบูรณ์

ขณะเดียวกัน ในช่วงท้ายหันไปถาม พิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ว่าเราจะเดินไปตึกสันติไมตรีเลยหรือไม่เพื่อเข้าร่วมการประชุมคณะรัฐมนตรี ซึ่งผู้สื่อข่าวตระกูลบอกว่า ประชุมตึกนี้ค่ะ อนุทิน จึงกล่าวในช่วงท้ายว่า เปล่า ลาบ่อยจำไม่ได้