สถานการณ์การแข่งขันของผู้ให้บริการส่งสินค้าในปัจจุบันมีการแข่งขันสูง ทั้งจากภาคเอกชนที่แข่งขันกันเอง จนกลายมาเป็นคู่แข่งทางการค้าหลักกับรัฐวิสาหกิจอย่าง บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด

นางสมร เทิดธรรมพิบูล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด (ปณท) เปิดเผยความคืบหน้าโครงการ "แบงก์แอดโพสต์" (Bank@Post) ซึ่งเป็นการร่วมมือระหว่าง ไปรษณีย์ไทย และ 10 ธนาคารพาณิชย์ ได้แก่ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา ธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย ธนาคารออมสิน ธนาคารกสิกรไทย ธนาคารเกียรตินาคิน ธนาคารกรุงไทย ธนาคารไทยพาณิชย์ ธนาคารเครดิตเพื่อรายย่อย ธนาคารทิสโก้ และธนาคารทหารไทย

เป็นความพยายามในการร่วมมือกันระหว่างไปรษณีย์ไทยและ 10 ธนาคารพาณิชย์ เพื่อให้บริการฝากเงิน ณ สำนักงานไปรษณีย์ เนื่องจากในบางพื้นที่ที่ไปรษณีย์ให้บริการ ธนาคารยังเข้าไม่ถึงหรือมีแผนขยายสาขา ซึ่งนับว่าเป็นการอำนวยความสะดวกให้กับประชาชนในพื้นที่ห่างไกล

"ไปรษณีย์ไทยได้ชื่อว่าเป็นหน่วยงานของรัฐที่มีเครือข่ายครอบคลุมทั่วประเทศ นี่คือจุดแข็งที่ประชาชนเข้าถึงได้อย่างสะดวก" นางสมร กล่าว

นางสมรกล่าวเสริมว่า ในระยะเริ่มต้น ประชาชนสามารถมาใช้บริการฝาก-โอนได้ในวงเงิน 20,000 - 50,000 บาท/รายการ แต่ในอนาคตจะเพิ่มบริการทั้ง ถอนเงิน สินเชื่อกู้ยืมเงิน หรือการเปิดบัญชีธนาคาร 

นอกจากนี้ ไปรษณีย์ไทยยังเตรียมเปิดตัวเอาใจผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมหรือเอสเอ็มอี ด้วยบริการเก็บเงินปลายทาง (COD) โดยผู้ประกอบการต้องไปจดทะเบียนกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์กับไปรษณีย์ไทยก่อน หลังจากนั้นเมื่อมีการซื้อขายเกิดขึ้น พนักงานส่งของจากไปรษณีย์ไทยจะดำเนินการนำเงินเข้ากระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ที่ผู้ประกอบการผูกไว้กับไปรษณีย์ไทย ซึ่งกระเป๋าเงินนี้สามารถเชื่อมต่อกับธนาคารพาณิชย์ทั้ง 10 แห่งที่เป็นพันธมิตรกับไปรษณีย์ไทยได้โดยตรง โดยปัจจุบันมียอดการใช้บริการอยู่ที่เกือบ 1 ล้านรายการ

ภาพจาก : Photo by Utsav Srestha on Unsplash