เมื่อช่วงวันอังคารที่ผ่านมา (16 เม.ย.) ปูตินได้เรียกร้องให้ทุกฝ่ายในความขัดแย้งในความยับยั้งชั่งใจ ระหว่างการพูดคุยทางโทรศัพท์กับ อิบราฮิม ไรซี ประธานาธิบดีอิหร่าน ผู้นำทั้งสองยังหารือกันถึง “มาตรการตอบโต้ที่อิหร่านดำเนินการ” หลังจากอิสราเอลโจมตีสถานกงสุลอิหร่านในกรุงดามัสกัส เมืองหลวงของซีเรีย เมื่อวันที่ 1 เม.ย.ที่ผ่านมา
นอกจากนี้ ปูตินเรียกร้องให้ทุกฝ่ายงดเว้นจากการกระทำที่จะก่อให้เกิดการเผชิญหน้าครั้งใหม่ที่อาจส่งผลร้ายแรงต่อภูมิภาคตะวันออกกลาง
ในช่วงค่ำของวันเสาร์ที่ผ่านมา (13 เม.ย.) อิหร่านยิงโดรนและขีปนาวุธหลายร้อยลูกใส่อิสราเอล เพื่อตอบโต้การโจมตีของอิสราเอลในกรุงดามัสกัส ซึ่งทำให้เจ้าหน้าที่ของกองกำลังพิทักษ์การปฏิวัติอิสลามเสียชีวิต 7 นาย โดยในบรรดาผู้เสียชีวิตนั้นรวมถึงนายพลของอิหร่านจำนวน 2 คนด้วย
ปูตินกล่าวในการแสดงความคิดเห็นต่อสาธารณะครั้งแรก เกี่ยวกับการโจมตีของอิหร่านว่า ต้นตอของความไม่มั่นคงในปัจจุบันในภูมิภาคตะวันออกกลาง คือความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลและปาเลสไตน์ที่ดำเนินอยู่
“วลาดิเมียร์ ปูติน แสดงความหวังว่าทุกฝ่ายจะแสดงความยับยั้งชั่งใจตามสมควร และป้องกันการเผชิญหน้ารอบใหม่ที่เต็มไปด้วยผลที่ตามมาอันเลวร้ายต่อทั้งภูมิภาค” สำนักประธานาธิบดีรัสเซียระบุในแถลงการณ์
“อิบราฮิม ไรซี ตั้งข้อสังเกตว่าการกระทำของอิหร่านถูกบังคับและจำกัดโดยธรรมชาติ” สำนักประธานาธิบดีรัสเซียกล่าว “ในขณะเดียวกัน เขาได้เน้นย้ำถึงการที่เตหะรานไม่สนใจที่จะเพิ่มความตึงเครียดให้มากขึ้น”
ในอีกด้านหนึ่ง ตามคำกล่าวของประธานาธิบดีอิหร่าน ไรซีกล่าวขอบคุณรัสเซียสำหรับจุดยืนของรัสเซียต่ออิหร่านในการตอบโต้อิสราเอล และกล่าวว่าการที่ประชาคมระหว่างประเทศไม่ปฏิบัติตามกฎระเบียบ และบทบาทในการทำลายล้างของประเทศตะวันตกบางประเทศ บีบให้อิหร่านต้องลงมือทำปฏิบัติการครั้งล่าสุดนี้ นอกจากนี้ ไรซียังย้ำว่าการกระทำใดๆ ที่ขัดต่อผลประโยชน์ของอิหร่าน จะต้องการการตอบสนองในวงกว้างขึ้น
รัสเซีย ซึ่งมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับ อาลี คาเมเนอี ผู้นำสูงสุดของอิหร่าน และผู้นำอาหรับหลายคน ได้ตำหนิกล่าวโทษชาติตะวันตกในหลายครั้ง ว่าเพิกเฉยต่อความต้องการรัฐปาเลสไตน์ที่เป็นอิสระภายในข้อตกลงพรมแดนปี 2510
“ทั้งสองฝ่ายระบุว่าต้นตอของเหตุการณ์ปัจจุบันในตะวันออกกลางคือความขัดแย้งระหว่างปาเลสไตน์-อิสราเอลที่ยังไม่ได้รับการแก้ไข” สำนักประธานาธิบดีรัสเซียกล่าว “ในเรื่องนี้ แนวทางหลักของรัสเซียและอิหร่าน เพื่อสนับสนุนการหยุดยิงทันทีในฉนวนกาซา การบรรเทาสถานการณ์ด้านมนุษยธรรมที่ยากลำบาก และการสร้างเงื่อนไขสำหรับการยุติวิกฤตทางการเมืองและการทูตได้รับการรับรองแล้ว”
อย่างไรก็ดี นับตั้งแต่รัสเซียเปิดฉากการรุกรานยูเครนเต็มรูปแบบในปี 2565 อิหร่านได้มอบขีปนาวุธและโดรนจำนวนมากให้กับรัสเซีย ซึ่งรัสเซียเคยใช้อาวุธดังกล่าวจากอิหร่านเพื่อการโจมตียูเครน
ที่มา: