9 ก.ย. 66 จากกรณีที่อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้สั่งการให้ฝ่ายปกครองเร่งปราบผู้นำอิทธิพลทั่วประเทศ ภายหลังจากคดีสะเทือนขวัญ มือปืนคนสนิทนายประวีณ จันทร์คล้าย หรือ "กำนันนก" บุกยิงเจ้าหน้าที่ตำรวจเสียชีวิต
ล่าสุด ได้มีคำสั่งด่วนที่สุด ลงวันที่ 8 ก.ย. 66 ถึงผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรเมืองนครปฐม ลงนามโดยยุทธนาโพธิวิทิวิหค นายทะเบียนท้องที่อำเภอเมืองนครปฐม เรื่อง ขอทราบรายละเอียดดำเนินคดี ระบุว่า กรณีที่ ประวีณจันทร์คล้าย กำนันตำบลตาก้อง อำเภอเมืองนครปฐม จังหวัดนครปฐม ได้ถูกออกหมายจับในคดีอาญาตามหมายจับของศาลจังหวัดนครปฐม ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐานเป็นผู้ใช้ให้ผู้อื่นกระทำความผิดฐานฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาและพยายามฆ่าผู้อื่น
เพื่อให้ได้ข้อมูลประกอบการพิจารณาเพิกถอนใบอนุญาตของ ประวีณ จันทร์คล้าย ตามแนวทางที่กระทรวงมหาดไทยกำหนด อำเภอเมืองนครปฐม จึงขอทราบละเอียดผลการดำเนินคดีและเอกสารต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง บันทึกจับกุม พร้อมข้อมูลพฤติการณ์การกระทำความผิด รายละเอียดข้อมูลอาวุธปืนที่ใช้ก่อเหตุ และอาวุธปืนพร้อมใบอนุญาตให้มีและใช้อาวุธปืน (แบบ ป.4) ของ นายประวีณ จันทร์คล้ายเก็บรักษาไว้ที่ใด โดยขอให้รวบรวมข้อมูลส่งให้อำเภอเมืองนครปฐมทราบโดยด่วน
ทั้งนี้ ในวันเดียวกัน ได้ปรากฏเอกสารด่วนที่สุดถึงประวีณ ลงนามโดยนายทะเบียนท้องที่อำเภอเมืองนครปฐมระบุว่า พฤติกรรมของนายประวีณเป็นการกระทำที่อุกอาจไม่เกรงกลัวต่อกฎหมาย ท่านจึงเป็นผู้ต้องห้ามออกใบอนุญาต ตามพระราชบัญญัติอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิงและสิ่งเทียมอาวุธปืน พ.ศ. 2490 มาตรา 13 (3) อันเป็นเหตุให้ถูกเพิกถอนใบอนุญาตตามพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ มาตรา 66 นายทะเบียนท้องที่อำเภอเมืองนครปฐมจึงเห็นควรเพิกถอนใบอนุญาตให้มีและใช้อาวุธปืน (แบบ ป.4) ของท่าน
ดังนั้น เพื่อให้การดำเนินการเพิกถอนใบอนุญาตให้มีและใช้อาวุธปืน (แบบ ป.4) เป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมาย จึงแจ้งมายังท่านเพื่อให้ได้รับทราบข้อเท็จจริงอย่างเพียงพอ และมีโอกาสโต้แย้งและแสดงพยานหลักฐานต่อนายทะเบียนท้องที่อำเภอเมืองนครปฐม ภายใน 7 วัน นับแต่วันที่ได้รับหนังสือ
อนุทิน ได้ให้สัมภาษณ์สื่อด้วยว่า เรื่องนี้ต้องเร่งจัดการ เราจะปล่อยไว้ไม่ได้ กับการให้มีผู้นำชุมชน สะสมอิทธิพล แล้วทำตัวเหิมเกริม ท้าทายกฎหมาย อาวุธปืน ต้องจำกัดการถือครอง ไม่ใช่อยู่ในมือคนชั่ว คนเลว ตอนนี้ ต้องจัดระเบียบกันใหม่ ต้องเอาจริง เอาจัง กฎหมายต้องบังคับใช้ ให้เกิดประสิทธิภาพ