วันที่ 17 กรกฎาคม เพจสถานทูตสหรัฐอเมริกาประจําประเทศไทย ได้เผยสารจาก ไมค์ ปอมเปโอ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐอเมริกา ว่าสหรัฐฯ พร้อมทำงานกับรัฐบาลชุดใหม่ของไทยเพื่อสนับสนุนความโปร่งใสและธรรมมาภิบาล
“สหรัฐอเมริกาตั้งตารอที่จะได้ร่วมงานกับรัฐบาลที่จัดตั้งขึ้นใหม่ของไทย เพื่อกระชับสัมพันธไมตรีและความร่วมมือระหว่างประเทศของเราทั้งสอง อันจะทำให้มิตรภาพกว่าสองร้อยปี ระหว่างประชาชนของเราเจริญงอกงามต่อไป เราสนับสนุนความโปร่งใสและธรรมาภิบาลในทุกประเทศทั่วโลก และจะยังคงทำงานร่วมกับประชาชนชาวไทยและรัฐบาลไทยเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ดังกล่าว” สารจากปอมเปโอ ระบุ
ปอมเปโอ ยังย้ำอีกว่า ความสัมพันธ์ระว่างทั้งสองประเทศจะยิ่งแน่นแฟ้นขึ้น เพราะต่างมีเป้าหมายร่วมกันคือ ความมั่นคง สันติภาพ และความเจริญรุ่งเรือง
“พันธไมตรีระหว่างสหรัฐอเมริกาและประเทศไทยแข็งแกร่งเหมือนเช่นที่เคยเป็นมาไม่เปลี่ยนแปลง และเราจะยังคงสนับสนุนประเทศไทยในฐานะผู้นำของภูมิภาค อันรวมถึงการเป็นประธานอาเซียนในปีนี้ ความสัมพันธ์ระหว่างเราจะแน่นแฟ้นมากยิ่งขึ้นเมื่อเราร่วมมือกันขับเคลื่อนเป้าหมายที่ทั้งสองประเทศมีร่วมกัน อันได้แก่ ความมั่นคง สันติภาพ และความเจริญรุ่งเรืองในภูมิภาคอินโด-แปซิฟิก และทั่วโลก”
อย่างไรก็ตาม คอมเมนต์ในโพสต์ดังกล่าวมีการแสดงความเห็นแย้งกับสารจากปอมเปโอ พร้อมตั้งคำถามว่าการที่สหรัฐฯ แสดงจุดยืนพร้อมทำงานร่วมกับรัฐบาลประยุทธ์เป็นการสนับสนุนธรรมาภิบาลจริงหรือไม่
ทางด้านโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ทวีตขับไล่คนในชาติผ่านทวิตเตอร์เมื่อวันก่อน โดยอิงถึงกรณีที่มีส.ส.หญิงในสหรัฐฯ หลายรายวิพากษ์วิจารณ์นโยบายของสหรัฐฯ ทรัมป์ชี้ว่าสหรัฐฯ เป็นประเทศเสรี หากใครไม่พอใจก็ออกจากประเทศไป
“ประเทศของเราเป็นประเทศเสรี สวยงาม และประสบความสำเร็จอย่างยิ่ง ถ้าเกลียดประเทศนี้นักหรืออยู่แล้วไม่มีความสุขก็ออกไปได้เลย” ทรัมป์ ระบุ