สมศักดิ์ เทพสุทิน รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการเร่งรัดการเสนอร่างพระราชบัญญัติเพื่อขับเคลื่อนการดำเนินการตามนโยบายของรัฐบาล (ครน.) โดยมี ชัยเกษม นิติสิริ ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี สมคิด เชื้อคง รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง กิตติกร โล่ห์สุนทร รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง วิชัย ไชยมงคล ที่ปรึกษารองนายกรัฐมนตรี และคณะกรรมการ ครน. เข้าร่วมประชุม ที่ทำเนียบรัฐบาล
สมศักดิ์ กล่าวว่า การประชุม ครน.ในวันนี้ ได้มีการพิจารณาเรื่องสำคัญคือ สถานะร่างพระราชบัญญัติของคณะรัฐมนตรี ซึ่งขณะนี้ มีทั้งหมด 147 ฉบับ โดยอยู่ในการพิจารณาของวุฒิสภา จำนวน 2 ฉบับ อยู่ในการพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎร จำนวน 6 ฉบับ อยู่ในการพิจารณาของ สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา จำนวน 2 ฉบับ อยู่ในการพิจารณาของ สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี จำนวน 62 ฉบับ และอยู่ในการพิจารณาของหน่วยงาน 75 ฉบับ ซึ่งร่างพระราชบัญญัติของคณะรัฐมนตรี ที่ต้องเร่งรัดติดตามโดยด่วน โดยเฉพาะที่เกินกรอบระยะเวลารับฟังความเห็นแล้ว จำนวน 8 ฉบับ ที่ประชุมได้เห็นว่า ต้องมีหนังสือแจ้งไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ก่อนนำเสนอคณะรัฐมนตรี ตามขั้นตอนต่อไป
สมศักดิ์ กล่าวอีกว่า ที่ประชุม ครน.ยังได้มีการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติการส่งเสริมกีฬาสัตว์พื้นเมืองและสัตว์แข่งขัน โดยได้เชิญ สำนักงานขับเคลื่อนการปฎิรูปประเทศ ยุทธศาสตร์ชาติ และการสร้างความสามัคคีปรองดอง (ป.ย.ป.) ในฐานะผู้ร่างกฎหมาย มาชี้แจงในที่ประชุมด้วย ซึ่งได้มีการชี้แจงหลักการของกฎหมาย 4 ข้อ คือ 1.เพื่อส่งเสริม พัฒนา และคุ้มครองสวัสดิภาพสัตว์พื้นเมืองและสัตว์แข่งขัน 2.ยกระดับการแข่งขันให้เป็นกีฬา ด้วยการมีกฎกติกาเป็นที่ยอมรับ มีมาตรฐาน เพื่อนำไปสู่การต่อยอดทางเศรษฐกิจ สังคม และวัฒนธรรม 3.มีการจัดเก็บรายได้เข้ารัฐอย่างมีประสิทธิภาพ สามารถให้มีการเดิมพันการแข่งขันได้ ภายใต้หลักเกณฑ์ วิธีการและการกำกับควบคุมที่กำหนด และ 4.ป้องกัน สร้างภูมิคุ้มกัน และควบคุมการเข้าถึงการพนันสัตว์ที่ผิดกฎหมาย
“ผู้ร่างกฎหมาย ยังได้ชี้แจงว่า การร่างกฎหมายฉบับนี้ ได้ทบทวนวิเคราะห์จากกฎหมายทั้งในประเทศ และต่างประเทศ ซึ่งพบว่า มีไม่น้อยกว่า 22 ประเทศ ที่ให้กีฬาสัตว์สามารถกระทำได้ เช่น อังกฤษ อเมริกา สเปน ออสเตรเลีย โดยการมีกฎหมายฉบับนี้ เพื่อเป็นการเพิ่มมูลค่าให้กับสัตว์ จากวัวชำแหละเนื้อ ก็ให้สามารถพัฒนามาเป็นกีฬาสัตว์ได้ ซึ่งเมื่อสัตว์ เป็นนักกีฬาแล้ว ก็ต้องมีความคุ้มครองเพิ่มมากขึ้นด้วย รวมถึงกฎหมายฉบับนี้ จะทำให้ภาครัฐ สามารถจัดเก็บรายได้เข้ารัฐได้จำนวนมาก เพราะในอดีตรัฐจะได้แค่ค่าขออนุญาตหลักพันบาทเท่านั้น โดยความคืบหน้าของร่างกฎหมายฉบับนี้ อยู่ระหว่างการรับฟังความคิดเห็นทางระบบกลางทางกฎหมาย ระหว่างวันที่ 13 เม.ย.-3 พ.ค.67 และในวันที่ 7 พ.ค.67 ก็จะมีการเสนอให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี พิจารณาต่อไป“