ไม่พบผลการค้นหา
ศาลอาญาเรียก ผบ.เรือนจำพิเศษกรุงเทพ พร้อม เบิกตัว 'อานนท์ นำภา' ไต่สวนกรณีเขียนหนังสือร้องศาลเกี่ยวกับถูกควบคุมตัวในเรือนจำยามวิกาล

เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์นำตัว อานนท์ นำภา หนึ่งในจำเลยคดีม็อบคณะราษฎร 2563 มาที่ศาลอาญา ถนนรัชดา ตามที่ศาลนัดไต่สวนกรณียื่นหนังสือที่เขียนด้วยลายมือเสนอต่อศาลเกี่ยวกับการควบคุมตัวกลุ่มจำเลย (จตุภัทร์ บุญภัทรรักษา หรือ ไผ่ ดาวดิน และ ภานุพงศ์ จาดนอก หรือ ไมค์) ในเรือนจำ โดยมีการอ้างว่ากลัวจะได้รับอันตราย โดยศาลได้เรียก ผู้บัญชาการเรือนจำพิเศษกรุงเทพ มาฟังพิจารณาการไต่สวน ด้วย 

โดยกฤษฎางค์ นุตจรัส ทนายความจากศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน เปิดเผยว่า อานนท์ อยากได้รับมาตราการที่ปลอดภัย เพราะขณะนี้จำเลยทั้งหมดไม่ได้รับการประกันตัวชั่วคราวจึงต้องอยู่ในเรือนจำ จึงเกรงว่าได้รับอันตราย ที่ผ่านมามีหลายกรณีที่เกิดขึ้นที่ผู้ต้องขังตายในเรือนจำระหว่างรอพิจารณาคดี โดยยกเรื่องของนายเจริญรัตน์ วัดอักษร ที่เสียชีวิตในเรือนจำ ซึ่งกรณีแบบนี้จำเลยก็กังวลใจ 

06.jpg

ส่วนกรณีที่อานนท์ เขียนคำร้องอ้างถึงอันตรายยื่นต่อศาลเป็นการเขียนในฐานะเป็นเลยของศาลจึงขอให้ศาลช่วย โดยความคิดเห็นส่วนตัวมองว่า ถ้าทำไม่ถูกต้องตามระเบียบศาลก็จะมีคำสั่งประการใดประกาศหนึ่งให้ดูแลจำเลยให้ดีขึ้น แต่ ถ้าศาลเห็นว่าเรือนจำทำถูกต้องแล้วคำร้องของนายอานนท์ฟังไม่ขึ้นก็ตกไป 

ทั้งนี้ยืนยันว่าการยืนคำร้องของอานนท์เป็นคนละเรื่องกับการยื่นของปล่อยตัวชั่วคราว เพราะกรณีนั้นศาลได้มีคำสั่งไปแล้ว ว่าไม่มีเหตุผลเปลี่ยนแปลงคำสั่งจากเดิมเนื่องจากยังไม่ปรากฏหลักฐานใหม่ เพราะกรณีที่ถูกปองร้ายตามที่นายอานนท์เขียนไม่ใช่เหตุที่ศาลสั่งไม่ให้ประกัน 

สำหรับพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือ เพนกวิน ที่ประกาศอดอาหาร ขณะนี้เข้าสู่วันที่ 3 ในการอดอาหารแล้ว ซึ่งสภาพร่างการค่อนข้างอ่อนเพลีย ไม่มีแรง ส่วนกรณีที่หลายคนมองว่าการที่เพนกวินอดอาหารเป็นกลยุทธ์ไปอยู่โรงพยาบาลนั้น ไม่ได้เกี่ยวข้องกับการขอปล่อยตัวชั่วคราว เพราะเพนกวินต้องการพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของตัวเอง

ส่วนกรณีที่มวลชนจะเดินทางมาทำกิจกรรมที่ศาลอาญาวันนี้ กรณีนี้ กฤษฎา บอกว่ายังไม่ทราบเรื่อง แต่ถ้าเป็นการพิจารณาอย่างเปิดเผยก็จะรอร้องขอต่อให้มวลชนเข้าไปร่วมรับฟังอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย

001.jpg

เบิกตัว “ไผ่-ไมค์” ไต่สวนจันทร์หน้า 22 มี.ค. ทนายเร่งขอภาพกล้องวงจรปิด

เมื่อเวลา 12.00 น. กฤษฎางค์ นุตจรัส ทนายความศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน ให้สัมภาษณ์หลังการไต่สวนของศาลช่วงเช้า กรณีนายอานนท์ นำภา แกนนำราษฎร ยื่นจดหมายคำร้องต่อศาลบรรยายเหตุการณ์เกรงจะถูกทำร้ายในเรือนจำ ว่า ศาลไต่สวนนายอานนท์โดยละเอียดถึงเหตุการณ์ตั้งแต่ต้นจนจบ ช่วงบ่ายศาลจะให้ตัวแทนของกรมราชทัณฑ์ น่าจะเป็นนายวีระกิตติ์ หาญปริพรรณ์ รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ ฝ่ายปฏิบัติการ ที่ปรากฏในคำแถลงของกรมราชทัณฑ์ ให้มาไต่สวน 

ทั้งนี้ อานนท์ได้ขอให้ทนายความไปขอเทปกล้องวงจรปิดในเรือนจำแดน 2 ทั้งหมด และห้องขังขณะเกิดเหตุ ตอนนี้กรมราชทัณฑ์ยังไม่จัดส่งให้ เราขอให้ศาลพิจารณาเรียกภาพกล้องวงจรปิด เพราะเรากังวลว่าอาจจะมีการทำลาย ลบทิ้ง หรือทำให้เสื่อมค่าไป

อานนท์ยืนยันต่อศาลขณะเกิดเหตุจำเลยทั้งหมดซึ่งเป็นนักโทษการเมืองเกรงจะได้รับอันตรายถึงชีวิต จึงพยายามไปยืนหน้ากล้องวงจรปิดขณะเกิดเหตุ ดังนั้นภาพในกล้องวงจรปิดเห็นแน่นอน ส่วนกรณีที่สื่อมวลชนขอสอบถามศาลเกี่ยวกับการไม่อนุญาตให้สื่อเข้าห้องพิจารณาคดีนั้น ไม่ใช่การพิจารณาคดีลับ แต่ศาลจำกัดจำนวนผู้เข้าฟัง ให้เฉพาะทนายความ เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ มารดาและภรรยาของจำเลย ตอนนี้ยังพิจารณาไม่ให้สื่อเข้าอยู่นอกจากนี้ในวันจันทร์ที่ 22 มี.ค. นี้ ศาลจะไต่สวนจตุภัทร์ บุญภัทรรักษา หรือไผ่ และภาณุพงศ์ จาดนอก หรือไมค์ แกนนำราษฎร ในเรื่องนี้ด้วย เพราะอยู่ในบรรยากาศนั้น

ผู้สื่อข่าวถามถึงความคาดหวังในมาตรการคุ้มครองความปลอดภัย กฤษฎางค์ กล่าวว่า จำเลยคงทำอะไรไม่ได้ อานนท์แถลงขอให้ศาลช่วยชีวิต เนื่องจากเป็นผู้ถูกคุมขังตามหมายศาล ศาลก็พูดชัดเจนดูแลเหมือนกันทุกคน เห็นความจำเป็นก็ไต่สวนเพื่อปกป้องดูแล ศาลกังวลถึงความปลอดภัยของผู้ต้องขังหรือจำเลย

ถามต่อว่ากรณีอย่างนี้เคยมีตัวอย่างเป็นรูปธรรมหรือไม่ว่าจะคุ้มครองดูแลอย่างไร กฤษฎางค์ กล่าวว่า ตนนึกไม่ออกท่านจะมีมาตรการดำเนินการหลังจากฟังแล้ว ไม่เคยมีตัวอย่าง ส่วนใหญ่มักจะตายก่อนที่ศาลจะทราบ

เมื่อถามถึงกรณีเรือนจำอ้างเป็นการตรวจไวรัสโควิด อานนท์เบิกความอย่างไร กฤษฎางค์ กล่าวว่า ข้อเท็จจริงได้ความว่า ตอนเวลา 21.30 น. ไม่มีการพูดว่าจะตรวจโควิด แต่จะแยกไมค์กับไผ่ไปขังไว้ที่อื่น ตอนเวลา 23.30 น. เจ้าหน้าที่จึงบอกจะมาตรวจโควิด

อานนท์บอกจริงๆ ไม่เคยมีการตรวจโควิดเลย เพราะอานนท์เข้าออกศาลหลายครั้งเนื่องจากเป็นทนายและจำเลยในคดีอื่น จะถูกกักในแดนกักโรค ตรวจอุณหภูมิ กักครบ 14 วัน ตรวจโควิดแล้วแยกไปแดนอื่น ไม่เคยมีการตรวจกลางคืน หลังเวลา 18.00 น. ความจริงต้องใส่กุญแจนอนแล้ว

ถามถึงต้องการจัดคนดูแลเป็นพิเศษเป็นคุกวีไอพีหรือไม่ กฤษฎางค์ กล่าวว่า ไม่มี เราไม่เรียกร้อง ขอให้เป็นมาตรการปกติ อยู่สงบสุขเท่ากับคนอื่น อย่าหาคนมาทำร้าย เป็นหน้าที่ตาม พ.ร.บ.ราชทัณฑ์ อยู่แล้ว มีหน้าที่คุ้มครองดูแล

ข่าวที่เกี่ยวข้อง :