ไม่พบผลการค้นหา
"พวกตำรวจกำลังโกหก! ... ผมไม่รู้ด้วยซ้ำว่าพวกมันทำอะไรกับลูกสาวผมบ้าง"

ผู้เป็นพ่อของ 'มาห์ซา อามินี' หญิงสาววัย 22 ปีที่เสียชีวิตด้วยสาเหตุที่คลุมเครือเมื่อวันที่ 19 ก.ย.ที่ผ่านมา กล่าวว่า "พวกตำรวจกำลังโกหก!" เนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจศีลธรรม หรือตำรวจศาสนาในอิหร่านอ้างว่าเธอเสียชีวิตลงเพราะ "หัวใจล้มเหลวเฉียบพลัน" ในขณะที่สังคมเชื่อว่าการตายมีสาเหตุมาจากการถูกเจ้าหน้าที่ใช้ความรุนแรงทุบตี 

"พวกตำรวจกำลังโกหก พวกเขากำลังพูดแต่เรื่องโกหก ทุกอย่างคือความโกหกทั้งหมด ... ไม่ว่าผมจะร้องขอเท่าใดพวกเขาก็ไม่ยอมให้ผมได้เจอลูกสาวเลย" อัมจาด อามินี กล่าวกับสำนักข่าว BBC

ด้าน CNN รายงานว่าพ่อของผู้เสียชีวิตได้เห็นแค่เพียง 'เท้าที่มีรอยช้ำ' และ 'ใบหน้า' ของลูกสาวเท่านั้นขณะที่เจ้าหน้าที่นำร่างของเธอออกจากโรงพยาบาลไปที่งานศพ โดยทุกส่วนที่เหลือของร่างการถูกห่อหุ้มปกปิดอย่างมิดชิดทุกตารางนิ้ว พร้อมชี้ว่า "ผมไม่รู้ด้วยซ้ำว่าพวกมันทำอะไรกับลูกสาวผมบ้าง"

AFP - อิหร่าน ประท้วง ฮิญาบ 2022

ในวันที่ 13 ก.ย. หญิงสาวผู้นี้ได้เดินทางออกจากเมืองซาเกซไปยังกรุงเตหะรานของอิหร่านเพื่อเยี่ยมครอบครัว เธอถูกตำรวจศาสนาจับกุมและนำตัวไปกักขัง โดยมีเหตุผลว่าเธอละเมิดกฎที่บังคับให้หญิงสาว "ต้องสวมฮิญาบในที่สาธารณะ" 

อย่างไรก็ตามสำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่าเธอถูกทุบตีที่ศรีษะด้วยกระบองและจับกระแทกกับรถของเจ้าหน้าที่ตำรวจจนอาการโคม่า และท้ายที่สุดเสียชีวิตในวันที่ 19 ก.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้งัดหลักฐานจากกล้องวงจรปิดมาอธิบายว่าเธอหัวใจล้มเหลวและล้มฟุบลงไปเองขณะอยู่ที่ 'ศูนย์อบรม' เพื่อปรับพฤติกรรมเรื่องการแต่งกาย

ประชาชนแสดงความไม่พอใจอย่างรุนแรงต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น มีการประท้วงเจ้าหน้าที่ทันทีตั้งแต่วันที่มีการจัดงานศพ โดยมีการปะทะกันของเจ้าหน้าที่และผู้ประท้วง รายงานระบุว่ามีการใช้ทั้งกระสุนยางและกระสุนจริง ทำให้มีผู้เสียชีวิตในการประท้วงยาวนานเกือบหนึ่งสัปดาห์ไปแล้วอย่างน้อย 9 ราย หนึ่งในนั้นคือวัยรุ่นวัยเพียง 16 ปี

ผู้หญิงชาวอิหร่านจำนวนไม่น้อยแสดงความไม่พอใจต่อเหตุการณ์นี้และความโกรธแค้นในการถูกกดทับ พวกเธอประท้วงด้วยการถอดฮิญาบออกกลางพื้นที่สาธารณะและจุดไฟเผาจำนวนมาก บ้างก็ยืนขึ้นบนที่สูงพร้อมกับใช้กรรไกรตัดผมของตัวเองโดยมีเสียงร้องเชียร์ดังกระหึ่ม ซึ่งผู้ชุมนุมที่ออกมาร่วมประท้วงจำนวนไม่น้อยเป็นเพศชาย ขณะที่การประท้วงเกิดขึ้นทั่วประเทศในมากกว่า 20 เมือง ซึ่งมีเมืองที่มีความอนุรักษ์นิยมสูงรวมอยู่ด้วย

Netblocks หน่วยงานที่จับตาด้านเครือข่ายอินเทอร์เน็ตเผยว่า รัฐบาลทำการบล็อกการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตเป็นวงกว้าง ทำให้ผู้คนไม่สามารถเข้าถึงแอปพลิเคชันอย่างอินสตาแกรมและวอตส์แอปได้ ก่อนหน้านี้ที่รัฐบาลอิหร่านเคยลงมือบล็อกการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตครั้งใหญ่ระดับนี้คือเมื่อปี 2562 ในช่วงที่ประชาชนออกมาประท้วงอย่างหนักหลังมีการประกาศขึ้นราคาพลังงานสูงถึง 300%